รีวิว Thus Spoke Kishibe Rohan นักวาดมังงะเปลี่ยนความทรงจำเป็นหนังสือ!
จะเป็นอย่างไร หากเรามีพลังวิเศษ สามารถเปลี่ยนความทรงจำ หรือความคิดของคนอื่น กลายเป็นหนังสือ แล้วเราก็สามารถอ่านทุกความลับในนั้นได้ นี่คือพลังวิเศษของ “คิชิเบะ โรฮัง” นักวาดมังงะคนหนึ่ง ที่พยายามเขียนมังงะออกมาให้ใกล้ความจริงมากที่สุด ด้วยการใช้พลังวิเศษนี้ แต่ดูเหมือนว่า พลังของเขามักถูกใช้ไปกับเรื่องแปลกประหลาด ที่วนเวียนเข้ามาหาเขาแบบไม่รู้ตัว!
พอได้ดูเรื่องนี้แล้วก็พบว่า พล็อตน่าสนใจดีค่ะ เป็นซีรีส์สั้น ไม่ทำให้ต้องเสียเวลานาน แต่ก็ได้ความบันเทิงแบบจัดเต็ม วันนี้เลยขอมาเล่าถึงความสนุกสนานของซีรีส์เรื่อง “Thus Spoke Kishibe Rohan” เรื่องราวจะเป็นอย่างไร วันนี้จะมาเล่าให้ฟังค่ะ
Thus Spoke Kishibe Rohan นักวาดมังงะเปลี่ยนความทรงจำเป็นหนังสือ!
สำหรับซีรีส์เรื่องนี้เป็นภาค Spin-Off ของโจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ซึ่งดัดแปลงจากมังงะชื่อเดียวกันค่ะ เป็นเรื่องราวของ “คิชิเบะ โรฮัง” (รับบทโดย ทาคาฮิโระ ซากุราอิ) นักวาดมังงะที่มีพลังวิเศษ “Heaven’s Door” ซึ่งสามารถเปลี่ยนความทรงจำของคนอื่นให้เป็นหนังสือได้ และเขาก็มักจะใช้พลังวิเศษนี้เพื่ออ่านความคิดคนว่า ชีวิตที่ผ่านมาได้ผ่านอะไรมาบ้าง เหตุผลของการกระทำต่างๆ เกิดจากอะไร เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจมนุษย์มากยิ่งขึ้น และถ่ายทอดของมาเป็นมังงะที่สมจริง ใกล้เคียงกับความเป็นมนุษย์มากที่สุด
แต่แล้วชีวิตเขาก็พลิกผัน เมื่อได้พบกับบรรณาธิการสาวคนใหม่ที่ท่าโก๊ะๆ ต๊องๆ หน่อย แต่ก็เป็นคนที่มีจิตใจดี แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องราวอันแปลกประหลาดก็เริ่มเข้ามาในชีวิตของเซนเซย์โรฮัง ตั้งแต่บ.ก.สาวคนนี้เข้ามานั่นแหละ ซึ่งสิ่งที่จะช่วยเขาได้คือ พลังวิเศษ “Heaven’s Door” ที่สามารถเปลี่ยนความทรงจำและความคิดของผู้คนเป็นหนังสือได้ ด้วยพลังนี้จะทำให้เขารู้ประวัติหรือพื้นเพของคนๆ นั้น พร้อมความรู้สึกนึกคิดที่จะไขปริศนาทุกอย่าง แต่เขาก็ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอด!
ความน่าสนใจของเรื่องนี้
1. เรื่องกระชับ ไม่ยาวมาก จบในตอน
ใครรู้สึกว่าพักนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่ที่จะดูมหากาพย์ซีรีส์หลายสิบตอนได้ หรือต้อองใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการดูซีรีส์แต่ละตอนละก็ ซีรีส์เรื่องนี้หายห่วงค่ะ เพราะมีเนื้อเรื่องที่กระชับ เนื่องจากเป็นภาค Spin-off เรื่องราวมีเพียง 3 ตอนเท่านั้น ตอนละ 40 กว่านาที และที่สำคัญจบในตอนด้วย ดูจบตอนนึงได้แบบไม่มีอะไรค้างคาในใจ แต่ก็มีความแปลกอีกอย่างที่น่าสนใจคือ แม้จะเคลียร์จบในตอน แต่ก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกต้องดูตอนต่อไปให้ได้!
2. ซ่อนความลึกลับที่ชวนให้ติดตาม
เสน่ห์ของเรื่องนี้ก็คือ ความลึกลับของเนื้อเรื่องค่ะ จากเรื่องย่อเราก็เห็นแล้วว่า “โรฮัง เซนเซย์” หรือตัวละครเอกของเรื่องนี้มีพลังวิเศษ และเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็มักจะเป็นเรื่องแปลๆ พิลึกพิลั่น ที่โรฮังเซนเซย์ต้องเข้าไปเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านพักตากอากาศในหมู่บ้านเศรษฐี ที่คนซื้อต้องมีคุณสมบัติพิเศษคือ ต้องผ่านการทดสอบมารยาท หากทำผิด ก็จะต้องสูญเสียสิ่งที่รักไปทีละอย่าง หรือเหตุการณ์ของเพื่อนนักวาดมังงะ ที่กำลังง่วนตามหาความหมายของ “คำต้องห้าม” ที่หาเท่าไหร่ก็ไม่รู้ว่าความหมายคืออะไร รวมถึงเรื่องของเด็กน้อยที่สูญเสียพ่อตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก เมื่อเธอเกิดมาก็พบว่าพิเศษหลายอย่าง เช่น มีดวงตา 2 สี ชอบพูดกลับหน้าไปหลัง และไม่ว่าเธอจะไปปรากฏตัวที่ไหน ก็มักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรอบๆ ตัว อย่างหาสาเหตุไม่ได้
จนเรื่องประหลาดเหล่านี้ได้สร้างปัญหาให้กับโรฮังเซนเซย์ และคนรอบข้างเอง เขาเลยต้องแก้เกมด้วยความสามารถพิเศษตรงนี้ ในการอ่านความจริงที่ซุกซ่อนอยู่ โดยใช้พลัง “Heaven’s Door” เปลี่ยนใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามให้กลายเป็นหน้าหนังสือ ที่เต็มไปด้วยความคิดและความทรงจำ ให้เขาได้รู้ถึงปริศนาที่ซ่อนอยู่ แล้วเขียนคำสั่งใหม่ลงไปในหน้าหนังสือที่เปรียบเสมือนเป็นก้อนความคิดของคนๆ นั้น เพื่อคลี่คลายปัญหา
3. ข้อคิดดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในทุกความเพี้ยน
หากดูเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จะพบว่า ในความลึกลับ ก็มีความเพี้ยนซ่อนอยู่เช่นกัน แต่ถึงจะเพี้ยนขนาดไหน หากมองให้ลึกลงไปจะพบว่า คนแต่งได้แฝงข้อคิดที่น่าสนใจผ่านเรื่องราวอันพึลึกพิลั่นเหล่านั้นได้อย่างแนบเนียน เช่น คำต้องห้ามปริศนาที่เข้ามาสอนให้เรารู้ว่า การคิดได้ว่า “ไม่ต้องคิด” ก็ช่วยให้เราหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ บางอย่างเราก็ไม่จำเป็นต้องรู้ สิ่งสำคัญไม่ใช่การจมอยู่ในความคิดเพื่อค้นหาคำตอบทุกอย่าง แต่มันคือการรู้ที่จะเลือกว่า เรื่องไหนบ้างที่เราควรปล่อยวาง
รวมถึงพลังของคำพูด ที่เรื่องนี้ก็ได้สะท้อนออกมาผ่านบทบาทของนักวาดมังงะ ที่ต้องใส่บทพูดเข้าไปในตัวละครของเขาด้วย เพียงคำพูดสั้นๆ อาจจะสื่อได้ถึงความจริงที่หลบซ่อนอยู่ภายใต้ความคลุมเครือ แต่เหนือสิ่งอื่นได้ สิ่งที่เราทุกคนไม่ควรมองข้ามคือ การเลือกใช้คำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นถลำลึกไปมากกว่านี้ หรือทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่ถูกคัดสรรมาแล้วว่า โรฮังเซนเซย์ต้องเผชิญกับมัน…
ในซีรีส์เรื่องนี้มีเรื่องราวมากมาย ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่บางที…มันอาจจะเป็นเรื่องปกติที่หลบซ่อนอยู่ในสักแห่งบนโลกมนุษย์เราก็ได้ นี่คือซีรีส์แนวลึกลับครบรส แฝงข้อคิดชีวิตให้เราได้ค้นพบคำตอบ และล่าสุด Thus Spoke Kishibe Rohan เวอร์ชั่นอนิเมชั่นก็กำลังฉายลง Netflix ด้วย เตรียมรับชมได้เร็วๆ นี้เลยค่ะ
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– 5 ซีรีส์ญี่ปุ่น ที่พระ-นางต้องอยู่บ้านเดียวกันแบบบังเอิ๊ญ บังเอิญ
– 5 ซีรีส์ Live Action น่าดูของเคนโตะ ยามาซากิ
– 10 อันดับซีรีส์ญี่ปุ่นประจำปี 2020 ที่กวาดเรตติ้งได้สูงสุด
– รีวิว Alice in Borderland ความอยู่รอดในดินแดนมรณะ
– รีวิว Sensei wo Kesu Houteishiki สมการกำจัดครู
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
– ซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง Thus Spoke Kishibe Rohan
– https://www.imdb.com
– https://ramenparados.com
– https://thehivegaming.rocks
– https://www.otaquest.com
– https://spice.eplus.jp
#รีวิว Thus Spoke Kishibe Rohan นักวาดมังงะเปลี่ยนความทรงจำเป็นหนังสือ!