The Parades เรื่องราวชีวิตหลังความตาย ที่ชวนให้เราอยากมีชีวิตต่อไป
“ถ้าตอนนี้คุณรู้สึกว่า ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่เล่าถึงชีวิตของผู้คนหลังความตาย อาจให้คำตอบนี้ได้” The Parades ภาพยนตร์ญี่ปุ่นจาก Netflix ที่แค่ได้เห็น Teaser ก็พอจะเดาออกแล้วว่า น่าจะเป็นหนังแนวดราม่า เคล้าน้ำตา และพอได้ลองเปิดดู ก็พบว่า เป็นเรื่องที่ทำให้เสียน้ำตาจริง! แต่เป็นการเสียน้ำตาที่ไม่ได้รู้สึกหดหู่ใจ แต่เป็นความรู้สึกที่ชวนให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตเราและคนรอบตัว พร้อมอยากลุกขึ้นมาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม วันนี้เลยขอมารีวิวภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ ว่าจะมีความน่าสนใจขนาดไหน
The Parades สถานที่โลกหลังความตาย ที่รวมผู้คนที่ยังมีเรื่องค้างคาใจ
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยชีวิตของ “มินาโกะ” นักข่าวสาว ที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูก 1 คน หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น เธอได้พบว่า ตัวเองได้กลายเป็นวิญญาณไปแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถข้ามไปอีกฝั่งของโลกใบนี้ได้ เพราะยังมีความค้างคาใจ และเป็นห่วง “เรียว” ลูกชายของเธอ ในระหว่างที่เธอกำลังเดินตามหาลูกชาย เธอก็ได้พบสถานที่แห่งหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า “The Parades” เป็นสถานที่ที่รวมคนที่ตายไปแล้ว ที่ต่างมีเรื่องราวค้างคาใจ และเดินตามหาคนที่พวกเขาอยากเจอมากที่สุดอีกสักครั้ง
เรื่องราวได้เล่าถึงชีวิตของแต่ละคนที่อยู่ใน The Parades ที่พาพวกเราทุกคนได้เข้าไปสัมผัสเรื่องราวมุมต่างๆ ของชีวิต ทั้งครอบครัว ความรัก และความฝัน ที่ชวนให้เราอยากกลับไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุดอีกสักครั้ง
ความน่าสนใจของเรื่องนี้
1. เรื่องราวชีวิตของตัวละคร ที่เล่าได้ครบทั้งมุมครอบครัว ความรัก และความฝัน
สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้มีเสน่ห์อย่างหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้เล่าแค่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนเท่านั้น แต่เล่าได้ค่อนข้างครบ ทั้งครอบครัว คนรัก และความฝัน โดยเล่าผ่านตัวละครในเรื่องที่ได้มาพบกันใน The Parades ที่มีเรื่องราวความหลังในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น
– มินาโกะ (รับบทโดย มาซามิ นากาซาว่า)
– แม่เลี้ยงเดี่ยว ที่กำลังตามหา “เรียว” ลูกชายที่พรากจากกันไปตอนเกิดเหตุการณ์สึนามิ ในแต่ละวันเธอเฝ้ารอที่จะพบเจอกับเรียวอีกครั้ง พร้อมกับมีเรื่อวราวค้างคาใจมากมาย ที่หากเป็นไปได้ เธอก็อยากดูแลและบอกรักลูกให้มากกว่านี้
– คาสึโตชิ (รับบทโดย ริวเซย์ โยโกฮาม่า)
ยากูซ่าหนุ่มที่ยังมีอดีตที่ค้างคาใจกับแฟนสาว ที่ทุกวันนี้เขาก็ได้แต่ห่วงว่า เธอจะมีชีวิตที่สุขสบายดีไหม ในวันที่เขาจากไปแล้ว แฟนของเขามีชีวิตอยู่อย่างไร
– อากิระ (รับบทโดย เคนทาโร่ ซาคากุจิ)
ชายหนุ่มที่หลงรักการเขียนเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่ The Parades เขาเขียนบันทึกเรื่องราวทุกอย่างจนกองกระดาษกองเกือบเท่าภูเขา เรื่องที่เขาค้างคาใจคือ ชีวิตพ่อแม่ของเขา หลังจากที่เขาไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
– คาโอริ (รับบทโดย ชิโนบุ เทราจิม่า)
หญิงสาวผู้อ่อนโยน ที่มักทำหน้าที่ดูแล หาอาหาร ให้กับสมาชิกใน The Parades เรื่องที่ยังคงค้างคาใจของเธอก็คือ ชีวิตความเป็นอยู่ของลูกหลานที่เหลืออยู่
– ไมเคิล (รับบทโดย ลิลี่ แฟรงก์กี้)
คุณลุงนักสร้างหนัง ที่ชื่นชอบการทำภาพยนตร์เป็นชีวิตจิตใจ ในแต่ละวันเขามักจะคุยถึงเรื่องราวสมัยที่เขาทำหนังให้ฟังเสมอ เวลาว่าง ก็จะเดินไปที่โรงภาพยนตร์เพื่อดูหนังตัวเองฉายซ้ำๆ แต่พอมาถึงฉากหนึ่ง จอก็ดำมืดไป เป็นฉากที่เขายังถ่ายไม่จบ เพราะเสียชีวิตไปก่อน และนี่ก็คือเรื่องที่เขาค้างคาใจ อยากทำตามความฝันในตอนยังมีชีวิตให้เสร็จสมบูรณ์
– นานะ (รับบทโดย นานะ โมริ)
เด็กสาวมัธยมปลาย ที่ถูกเพื่อนในโรงเรียนกลั่นแกล้งจนต้องจบชีวิตตัวเอง เรื่องที่ค้างคาใจของเธอก็คือ การอยากขอโทษเพื่อนคนสำคัญคนหนึ่งในชีวิตให้ได้ และอยากให้เพื่อนคนนั้นได้รับรู้ถึงความรักและความปรารถนาดี
– ทานากะ (รับบทโดย เทตสึชิ ทานากะ)
พนักงานธนาคาร บุคลิกเงียบขรึม ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าในอดีตเขาค้างคาใจอะไรมา และดูเหมือนว่าเขากำลังทำหน้าที่พิเศษอย่างหนึ่งให้กับดินแดน The Parades นี้
2. ภาพยนตร์ดราม่าเรียกน้ำตา แต่ให้บรรยากาศที่อบอุ่นใจ
เมื่อเรื่องราวจะชวนให้รู้สึกเศร้า บางฉากก็แค่ทำเอาน้ำตาซึม แต่บางฉากก็เล่นเอาร้องไห้หนักมากจนเก็บอาการไม่ไหว แต่บรรยากาศของเรื่องไม่ได้หดหู่อย่างที่คิด แต่ด้วยเรื่องราว มิตรภาพของตัวละครในเรื่อง กลับชวนให้เรารู้สึกอบอุ่นใจ ไม่ว่าจะพบเจอกับอะไร เราต่างมีคนที่พร้อมอยู่เคียงข้างเราเสมอ และเมื่อเรื่องราวเลวร้ายเกิดขึ้นไปแล้ว มันก็อาจจะจริงที่เราย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่เรายังสามารถทำสิ่งที่เหลืออยู่ให้ดีขึ้นได้ และที่สำคัญกว่านั้นคือ การรู้จักปล่อยวางความห่วง ที่ทึกฉากทุกตอน ชวนให้เราได้ตระหนักถึงชีวิตมากขึ้น ในรูปแบบที่ไม่ฟูมฟาย แต่มีความหวัง
3. การเดินเรื่องที่ชวนให้ตีความต่อได้อย่างลึกซึ้ง
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเรื่องนี้คือ การเดินเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ แม้จะเป็นหนังแนวดราม่าชีวิต แต่การเดินเรื่องก็ไม่ได้เนิบช้าขนาดนั้น ยังมีจุดปริศนาหลายอย่างที่พอได้เห็นแล้ว ก็อยากรู้ต่อไปว่า ความจริงคืออะไร เรื่องราวชีวิตของตัวละครแต่ละคนจะลงเอยแบบไหน รวมถึงหลายๆ ฉาก ไม่ได้เฉลยให้เราแบบโต่งๆ โดยที่หนังไม่ได้บอกหมด แต่ใช้ภาพในการเล่าเรื่องราว ให้เราตีความต่อกันเอาเอง ชวนให้เราตีความต่อว่า ตัวละครกำลังคิดอะไร และเขาเลือกปิดฉากเรื่องราวชีวิตของตัวเองในรูปแบบไหน ในแบบที่ใจหมดห่วง
4. ชีวิตหลังความตาย ที่ชวนให้เราอยากมีชีวิตต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิม
แม้เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้จะเริ่มต้นด้วยความตาย และเป็นเรื่องราวของผู้คนที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกหดหู่ใจ แต่กลับทำให้เรามีพลังอยากจะลุกขึ้นมาใช้ชีวิตให้ขึ้นอีกสักครั้ง เป็นหนังที่กำลังบอกเราว่า ต่อไปนี้จงใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง และใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีชีวิตเพื่อใช้เวลากับคนรักอย่างยาวนาน และอยู่เพื่อทำตามความฝันให้สำเร็จ แบบไม่ต้องมีอะไร “ค้างคาใจ”
และนี่ก็คือเรื่องราวภาพยนตร์ The Parades ค่ะ ภาพยนตร์แนวดราม่า ที่ชวนให้เราเสียน้ำตา แต่ไม่ถึงกับฟูมฟายหนักมาก พร้อมทำให้เกิดพลังใจในหัวใจขึ้นทันทีหลังจากดูจบ นับว่าเป็น 2 ชั่วโมงที่คุ้มค่ากับการรับชม หากใครสนใจ สามารถรับชมเรื่องนี้ได้ทาง Netflix เลยค่ะ
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องแนะนำ :
– House of Ninjas ซีรีส์แอ็กชันสไตล์ญี่ปุ่น เรียบเรื่อยแต่งดงาม รวมหลายอารมณ์ในเรื่องเดียว
– รวมซีรีส์ญี่ปุ่น ที่ดูแล้วพัฒนาตัวเอง พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ ปี 2023
– รวมซีรีส์ญี่ปุ่นและหนังญี่ปุ่น เปลี่ยนชีวิตวุ่นวายให้ช้าลง เหมือนได้ชาร์จพลัง
– Brush Up Life จะเป็นอย่างไร ถ้าเรากลับไปแก้ไขชีวิตเดิมได้อีก (หลาย) ครั้ง
– รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น Yu Yu Hakusho บู๊แอคชั่นสุดเดือดสะเทือนไปถึงสามโลก
ขอขอบคุณรูปภาพจาก
– ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง The Parades ทาง Netflix
– https://thecinemaholic.com/
– https://wordstreetjournal.com/
– https://www.scmp.com/lifestyle/
– https://www.heavenofhorror.com/
– https://www.scmp.com/lifestyle/
– https://depor.com/depor-play/
– https://www.carestockroom.com
#The Parades เรื่องราวชีวิตหลังความตาย ที่ชวนให้เราอยากมีชีวิตต่อไป