5 พล็อตซีรีส์ญี่ปุ่น ที่เจอบ่อยๆ แต่ดูกี่ทีก็ไม่เบื่อ! ละครญี่ปุ่นเองก็มีพล็อตเดิมๆ ที่ให้เราเห็นอยู่บ่อยๆ ตามจอทีวี เรียกได้ว่า ถ้าอ่านเรื่องย่อ เจอพล็อตแนวๆ นี้ รู้เลยว่าน่าจะเป็นละครญี่ปุ่น แต่ส่วนใหญ่ มักมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ดูอีกทีก็ไม่เบื่อเลย
ละครญี่ปุ่นเองก็มีพล็อตเดิมๆ ที่ให้เราเห็นอยู่บ่อยๆ ตามจอทีวี เรียกได้ว่า ถ้าอ่านเรื่องย่อ เจอพล็อตแนวๆ นี้ รู้เลยว่าน่าจะเป็นละครญี่ปุ่น แม้ว่าจะเป็นพล็อตสุดคลาสสิคที่เจอบ่อย แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นพล็อตที่คนดูหลายคนตั้งตารอค่ะ และมักมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ดูอีกทีก็ไม่เบื่อเลย
วันนี้เราเลยขอมานำเสนอพล็อตซีรีส์ญี่ปุ่นที่เจอบ่อยๆ จะเป็นแนวไหนบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย
1. แต่งงานกันแบบปลอมๆ แต่ดันรักจริง
มาเริ่มกันที่พล็อตแรกกันค่ะ เป็นแนวที่เห็นได้ค่อนข้างบ่อย และเป็นที่ชื่นชอบของหลายคนด้วย พล็อตนี้ก็จะมีในแนวประมาณว่า นางเอกกับพระเอกที่ไม่ได้รู้จักหรือสนิทอะไรกันมาก แต่มีเหตุให้ต้องพบเจอกันโดยบังเอิญ
แล้วก็มีเรื่องบังเอิญที่ต้องให้แต่งงานกันปลอมๆ ด้วยการมีเงื่อนไขอะไรบางอย่าง แล้วจดทะเบียนกันเป็นสามี-ภรรยากันแค่ในนาม ห้ามมีอะไรมากกว่านั้น
แต่พอต้องมีใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน กลายเป็นว่าความรู้สึกดีๆ เริ่มก่อตัวขึ้น กลายเป็นความรัก ที่ไม่อยากเป็นแค่สามี-ภรรยาแบบปลอมๆ อีกต่อไป
ซีรีส์แนวนี้ที่โด่งดังสุดๆ ก็อย่างเช่นเรื่อง Nigeru wa Haji da ga Yaku ni Tatsu ที่พระ-นางต้องมาแต่งงานกันปลอมๆ แต่กลายเป็นว่าต้องมาแต่งงานกันจริงๆ ทั้งในละคร และในชีวิตจริง เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์แฟนละครกันแบบสุดๆ
2. ปลอมตัว แปลงโฉม
ในละครญี่ปุ่นก็มีพล็อตแนวปลอมตัว หรือแปลงโฉมให้เห็นอยู่บ่อยๆ เช่นกันค่ะ อย่างเช่นละครแนววัยรุ่น วัยเรียนที่ครองใจคนดูมาอย่างยาวนาน “Hana Kimi” ที่นางเอกต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่อที่จะมาช่วยให้พระเอกกลับมาเล่นกีฬากระโดดสูงให้ได้อีกครั้ง หลังจากเกิดอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าเพราะว่าเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้เมื่อตอนที่ไปอเมริกา
ซึ่งพระเอกของเราก็ดันเรียนอยู่ในโรงเรียนชายล้วนค่ะ วิธีเดียวที่จะเข้าถึงและสนิทสนมกับเขาได้ก็คือ การปลอมตัวเป็นผู้ชาย และเข้าไปเรียนในโรงเรียนเดียวกันกับพระเอกนั่นเอง
คนดูอย่างเราๆ ก็พอจะดูออกแหละค่ะว่า ยังไง ยังไง๊ นี่มันก็ผู้หญิงชัดๆ แต่ด้วยเนื้อเรื่องที่ชวนให้ติดตาม ความน่ารักกุ๊กกิ๊ก ก็ทำให้เรารู้สึกสนุก และลุ้นไปกับนางเอกตลอดทั้งเรื่อง
และถึงแม้จะพอดูออก แต่ถ้าใครเคยดูซีรีส์แนวนี้จะเห็นว่า ละครค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียดค่ะ อย่างเช่น แทนที่จะใส่วิกผมสั้น ก็ตัดจริงไปเลย หรือเสียงที่ใช้พูด ก็ไม่จำเป็นต้องดัดจนห้าวเกินธรรมชาติ รวมถึงแบล็กกราวด์ชีวิต ที่แน่นอนว่า ใครก็ตามเห็นนางเอกที่หน้าหวานๆ ตัวเล็กแบบนี้ ก็ต้องสงสัยแน่ๆ แต่ละครก็เซ็ทรายละเอียดชีวิต ให้พอตอบคำถามได้ ทำให้มีความเนียนมากยิ่งขึ้น
หรืออีกแนวนึงก็คือ “แปลงโฉม” จากสาวเฉิ่ม ไม่สวย โดนล้อ ก็ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง กลายเป็นสาวสวยขึ้นทันตาเห็น แนวนี้ก็เห็นบ่อยๆ ในซีรีส์ญี่ปุ่นเช่นกันค่ะ
3. ทะลุมิติ ย้อนเวลาตามหารัก
บางทีเนื้อคู่ของเราอาจจะอยู่ในโลกอีกใบก็ได้ แล้วจะเป็นอย่างไร ถ้าเราสามารถเดินทางย้อนกลับไปสู่อดีต แล้วไปเจอใครสักคนที่เราเฝ้ารอมานานแสนนาน ฟังดูเป็นพล็อตที่ดูลึกลับ น่าติดตาม แล้วคาดเดาไม่ได้เลยว่า จะไปอย่างไร ถ้าตัวละครมีโอกาสเดินทางไปอีกมิติหนึ่ง แล้วจะสานความสัมพันธ์อย่างไรต่อท่ามกลางเงื่อนไขทางด้านเวลา
ซีรีส์พล็อตแนวนี้ที่อยากแนะนำก็เช่น เรื่อง Ashi Girl นางเอกได้ย้อนเวลา 450 ปี ในยุค Sengoku แล้วได้เจอกับพระเอก ซึ่งเป็นทายาทเจ้าของปราสาท Tadakiyo Hagi ที่กำลังทำสงครามปกป้องบ้านเมือง พอนางเอกได้เจอพระเอกก็ตกหลุมรักเข้าอย่างจังค่ะ เลยพยายามหาทางที่จะได้ใกล้ชิด แต่เธอก็ต้องตัดใจ เพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แต่เมื่อเธอกลับมายังโลกปัจจุบันก็ได้อ่านประวัติศาสตร์เพิ่มเติม ทำให้รู้ว่าเขาจะถูกฆ่าตายในสงคราม เธอเลยย้อนเวลาไปอีกครั้งเพื่อจะช่วยพระเอก และใช้วิธีปลอมตัวเป็นผู้ชาย (เข้าแก๊ปข้อสอง) เพื่อที่จะได้เข้าใกล้พระเอกให้ได้มากที่สุด และแล้วความรู้สึกดีๆ ก็ค่อยๆ เริ่มก่อตัวขึ้น ส่วนตอนจบจะสมหวังไหม ต้องติดตามในละครนะคะ
และเมื่อเราพูดถึงละครแนวนี้ พล็อตคล้ายๆ กันที่หลายคนน่าจะนึกออกก็คือ การย้อนเวลาเพื่อไปแก้ไขอดีตค่ะ แนวนี้จะไม่ถึงขั้นที่ว่าย้อนไปอีกยุคหนึ่ง แต่จะเป็นการย้อนเวลาสั้นๆ เพื่อไปแก้ไขชีวิตตัวเองที่ผ่านมาให้ดีขึ้น อย่างเช่นเรื่อง “Proposal Daisakusen” ที่พระเอกของเรื่องแอบหลงรักเพื่อนสนิท และเฮิร์ทหนักกว่าเดิม เมื่อรู้ข่าวว่านางเอกจะแต่งงานกับชายหนุ่มอีกคน
ในงานวันแต่งงานเขารู้สึกเศร้าสร้อย แต่ก็ต้องพยายามยอมรับความจริงให้ได้ ในระหว่างนั้นเขาก็ได้เอาแต่คิดว่า จะดีกว่านี้ไหมนะ ถ้าเมื่อก่อนเขาซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเองให้มากกว่านี้ และทันใดนั้นเขาก็ได้เจอกับเทวดาประจำโบสถ์แต่งงาน และเทวดาตนนั้นก็ได้ช่วยให้คนได้ย้อนเวลากลับไปยังอดีต เพื่อแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆ ให้ปัจจุบันไม่ได้ต้องเสียใจอยู่แบบนี้
4. ต้องมาอยู่บ้านเดียวกันแบบบังเอิ๊ญ บังเอิญ
อีกหนึ่งซีรีส์ฟีลอบอุ่นชวนฟิน จะเป็นอย่างไร ถ้าเราต้องมาอยู่บ้านหลังเดียวกันกับคนที่เราชอบ! ในความเป็นจริงก็คงเป็นได้ยากมาก ที่ชาย-หญิง ที่ไม่ได้สนิทกันมาก่อน ต้องมาอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ละครสร้างเสกได้ค่ะ!
จะมีเหตุการณ์บางอย่างที่ต้องทำให้พระ-นางต้องมาอยู่ด้วยกัน อย่างเช่นเรื่อง Hotaru no Hikari สาวโสดที่รักการอยู่บ้านเป็นชีวิตจิตใจ แต่มารู้ว่าบ้านที่อยู่เป็นของหัวหน้าตัวเอง แล้วต้องรีบคืนบ้านหลังนี้ให้กับหัวหน้า (ซึ่งเป็นพระเอก) ด้วย
แต่ด้วยความผูกพันกับบ้านหลังนี้ ทำให้เธอไม่อยากย้ายออก ส่วนพระเอกของเราก็อดสงสารไม่ได้ เลยจำยอมให้อยู่ต่อไป แต่ก็ต้องใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้ด้วยกัน และต้องปกปิดเป็นความลับไม่ได้ให้ใครรู้เด็ดขาด โดยเฉพาะคนในออฟฟิศ แม้ว่าในบ้านจะมีกฎต่างๆ มากมาย และดูเหมือนว่านางเอกก็ยังห่างใกล้จากผู้หญิงในสเป็ก แต่ไปๆ มาๆ ก็ดันรู้สึกดีด้วยซะงั้น!
หรือจะเป็นเรื่องนี้ก็น่าติดตามค่ะ Kikazaru Koi niha Riyuu ga Atte นางเอกผู้หญิงสไตล์ Working Woman ที่ต้องรีบหาหอพักใหม่อย่างด่วน แต่หายังไงก็หาไม่ได้
จนกระทั่งเพื่อนรุ่นพี่คนสนิทได้ชวนไปอยู่บ้านแชร์เฮ้าส์ด้วยกันแบบบังเอิญ (บังเอิญจริงๆ แบบไม่ได้เซ็ท ไม่ได้รู้ก่อนน) ทำให้เธอได้พบเจอเพื่อนมากมาย
และหนึ่งในนั้นก็เป็นชายหนุ่ม ที่ตอนแรกไม่ค่อยถูกชะตา แต่อยู่ไปอยู่มากลับเกิดความรู้สึกดีขึ้นอย่างแปลกประหลาด จากชีวิตที่เคร่งเครียดกับงาน และอยู่อย่างโดดเดี่ยว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตของเธอมีสีสันมากขึ้นด้วยความรักที่อบอวลอยู่ในบ้านหลังนี้
5. สู้ชีวิต ฉันต้องรอด!
เรียกได้ว่าเป็นขนบของซีรีส์ญี่ปุ่นก็ว่าได้ค่ะ ไม่ว่าเนื้อเรื่องจะออกมาเป็นอย่างไร จุดร่วมที่ต้องมีก็คือ พล็อตแนวสู้ชีวิต พยายามสุดความสามารถ แล้วต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเหนื่อยยากสักแค่ไหนก็ตาม
และส่วนใหญ่แล้ว ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวความรักใสๆ จะน้อยมากค่ะ จะเป็นแนวอาชีพ แนวดราม่าชีวิตกันซะเยอะ หรือถ้าเป็นแนวความรักก็จะเป็นความรักที่ผสมเรื่องการทำงาน อาชีพ หรือดราม่าชีวิตหน่อยๆ ให้เห็นถึงการต่อสู้กับชีวิตที่เหนื่อยยาก ที่เชื่อว่าในชีวิตจริงของหลายๆ คนก็ต้องเจออะไรมามากมาย ต้องต่อสู้กับเรื่องที่เหนื่อยยาก
ละครญี่ปุ่นเองก็ได้นำเสนอในมุมนี้ค่อนข้างดี แม้จะดูเครียดๆ ไปสักหน่อย แต่เมื่อดูจบแล้ว กลับได้ข้อคิด และพลังใจให้เราอยากก้าวเดินในชีวิตต่อไปด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม และรอยยิ้มค่ะ
นี่ก็คือพล็อตละครญี่ปุ่นสุดคลาสสิคที่พบเจอในซีรีส์ญี่ปุ่นค่อนข้างบ่อย แต่ขอบอกว่า เป็นพล็อตที่ดูแล้วไม่เบื่อเลย แม้จะพล็อตเก่า แต่ดีเทลรายละเอียดก็สอดแทรกสิ่งใหม่ๆ ไปตามยุค ตามสมัย ที่ทำให้เจอกี่รอบก็ไม่เบื่อ ว่าแต่เพื่อนๆ ละคะ ชอบพล็อตซีรีส์ญี่ปุ่นแบบไหนมากที่สุด ลองมาแชร์กันได้นะคะ
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– 5 อันดับซีรีส์ญี่ปุ่น ที่กำลังฮอตฮิตในช่วงนี้!
– รีวิว Promise Cinderella เมื่อได้พบกับเจ้าชายรูปงาม และกลายเป็นเจ้าหญิง
– 4 ซีรีส์ญี่ปุ่นสุดละมุน ดูแล้ว Healing พาใจหลบจากความวุ่นวายสักพัก
– Dragon Zakura Season 2 กลับมาอีกครั้ง ปลุกใจเด็กมีฝัน ให้ก้าวสู่โทได
– 4 คู่หูซีรีส์ญี่ปุ่น เข้าขากันดี เพิ่มดีกรีความสนุก
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
– https://www.tokyohive.com/
– https://doubtproof.wordpress.com/
– https://himonotales.wordpress.com/
– https://asianwiki.com/
#5 พล็อตซีรีส์ญี่ปุ่น ที่เจอบ่อยๆ แต่ดูกี่ทีก็ไม่เบื่อ