5 ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวทำงาน ที่มุ่งทั้งรักและงาน แบบฟินๆ
ถ้านึกถึงซีรีส์ญี่ปุ่น หลายคนคงจะเห็นซีรีส์แนวอาชีพ หรือแนวการทำงานค่อนข้างเยอะใช่ไหมคะ แล้วแต่ละเรื่องก็เน้นชีวิตการทำงานแบบฮาร์ดคอมาก ชนิดที่ว่ารักไม่ยุ่ง มุ่งแต่งาน เป็นซีรีส์ที่ดูเหมือนอยู่แต่กับงานทั้งวันทั้งคืน แต่จริงๆ แล้ว ยังมีซีรีส์ญี่ปุ่นที่เล่าถึงทั้งเรื่องการงานและความรักไปพร้อมๆ กันด้วยนะคะ ที่พอดูแล้ว ได้ทั้งแรงบันดาลใจในการลุกขึ้นมาทำตามฝัน ไปพร้อมๆ กับความรู้สึกอินเลิฟ ฟินจิกหมอกไปพร้อมคู่พระ-นาง ว่าแต่จะมีซีรีส์เรื่องไหนที่น่าสนใจบ้าง วันนี้เลยขอมารีวิวแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ตามไปดูกันค่ะ
1. Animals
บางทีชีวิตคนเราอาจจะทั้งรักรุ่ง งานพุ่งได้พร้อมๆ กันเลยก็ได้ เหมือนซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ “ANIMALS”
เรื่องราวของ “อูมิ” สาวโปรดิวเซอร์ ไฟแรง ทุ่มเททั้งกายและใจเพื่องานที่เธอรัก จนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
ปล่อยให้ร่างกายโทรม ทำงานจน Burnout แต่แล้วชีวิตของอูมิก็พลิกผัน เมื่อถูกทาบทามให้ไปเป็น
Marketer บริษัทบิวตี้ชื่อดัง และดูเป็นงานที่ท้าทาย เพราะเธอไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการตลาดเลย อีกทั้งแต่งหน้า แต่งตัวก็ไม่เป็น! ถือว่าเป็นก้าวใหม่ที่ท้าทายสำหรับอูมิ นอกจากนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่เรื่องงานที่มีการเปลี่ยนแปลง ในระหว่างนั้นเธอก็ได้พบกับชายหนุ่ม 2 คน ที่เข้ามาเล่นกับหัวใจ ซีรีส์ที่ทั้งสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน พร้อมชวนให้ฟินไปกับความรัก ที่ทำให้รู้ว่า ชีวิตคนเราก็ทั้ง Lucky in Love และ Lucky in Game ได้นะ
2. Unicorn ni Notte
มาต่อกันที่ซีรีส์แนว Start-Up ของฝั่งญี่ปุ่นค่ะ ความโดดเด่นของเรื่องนี้คือ นอกจากจะให้แรงบันดาลใจและความรู้ในสายงาน Start-Up แล้ว ยังมีเรื่องราวความรักุก๊กกิ๊กของพระ-นางมาให้ลุ้นกันตลอดเรื่อง แบบไม่มากไม่น้อยเกินไป ผสานรวมกับพล็อตการงานได้อย่างลงตัวเลยค่ะ
เรื่องราวของ “ซานะ นารุคาว่า” (รับบทโดย เมย์ นากาโนะ) CEO สาววัย 26 ปี ที่มีแรงบันดาลใจอยากเปลี่ยนวงการการศึกษาให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้ฝันเกิดขึ้นจริง เธอเลยไปชวน “โค ซุซากิ”(รับบทโดย โยสุเกะ ซุกิโนะ) และ “จิโร่ คุริกิ” (รับบทโดย โค มาเอะฮาร่า) ที่รู้จักกันโดยบังเอิญ มาร่วมกันก่อตั้ง บริษัทสตาร์อัพ “Dream Pony” ที่สร้าง application เพื่อการศึกษา แต่แล้ววันหนึ่ง บริษัทก็ต้องเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ รายได้ลดลง ยอดจำนวน App Download ลดลงอย่างน่าแปลกใจ
ทำให้ทุกคนตัดสินใจอยากจะเปลี่ยนแปลงบริษัทให้ก้าวไปข้างหน้าให้ได้ ด้วยการรับสมาชิกทีมคนใหม่ นั่นก็คือ “ซาโตชิ โคโตริ” (รับบทโดย ฮิเดโตชิ นิชิจิมะ) ชายวัย 48 ปี อดีตพนักงานธนาคารยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ที่ตัดสินใจลาออกจากงาน และมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กับบริษัทสตาร์ทอัพที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานด้านนี้มาก่อน แต่ด้วย Mindset บางอย่าง ทำให้เขาถูกซานะรับเลือก ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือ “ไคโตะ โมริโมโตะ” (รับบทโดย เรียวตะ บันโดะ) เด็กหนุ่มที่มีความสามารถด้าน Programing ที่ด้วยความสามารถของเขา ทำให้ทุกคนในทีมปฏิเสธไม่ได้ที่จะไม่รับเขามาทำงาน เมื่อซานะได้ทีมครบแล้ว พวกเขาก็พากันสานฝันให้โลกธุรกิจก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอุปสรรคมากมาย พร้อมเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นจากความใกล้ชิดและผูกพัน เรื่องราวการงานและความรักของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามรับชมในซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ
3. Muchaburi: Watashi ga Shachou ni Naru Nante
ซีรีส์รักโรแมนติก ที่เดินเรื่องไปพร้อมๆ กับพล็อตแนวการทำงานค่ะ เป็นเรื่องราวของ “ทาคานาชิ” (รับบทโดย มิซึกิ ทาคาฮาตะ) ทำงานเป็นเลขาให้กับ “ฮิโรโตะ อาซามิ” (รับบทโดย โชตะ มัตสึดะ) หรือ CEO มาเป็นเวลายาวนาน ในตลอดเวลาช่วงการทำงาน CEO ฮิโรโตะมักจะให้โจทย์ยากและความท้าทายมาให้เสมอ ทำให้วันๆ แต่จมอยู่แต่กับการทำงาน จนทำให้ทุกวันนี้เธอยังโสด และไม่มีเวลาไปคิดเรื่องสำคัญในชีวิตของตัวเองจริงๆ และแล้ววันหนึ่งทาคานาชิก็เจอโจทย์หินหนักกว่าเดิม เมื่อ CEO ฮิโรโตะ ได้มอบหมายให้เธอขึ้นไปเป็น CEO บริษัทในเครือ ซึ่งทาคานาชิก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่นักว่าทำไมเธอถึงได้รับเลือก และค่อนข้างกังวลว่าจะจัดการงานนี้ได้หรือไม่ ดูเหมือนจะมีแต่เรื่องงานชวนน่าปวดหัว แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้เธอได้พบเจอกับชายหนุ่มคนหนึ่ง คือ “เรียว ไทกะ” (รับบทโดยจุน ชิซง) พนักงานแผนกการตลาด ที่ทำงานเก่ง มีความสามารถ แต่ไม่ค่อยมีความสุขในการทำงานสักเท่าไหร่ และเมื่อทาคานาชิได้เข้าไปดูแลบริษัท ก็ทำให้ชีวิตการทำงานของเรียวเปลี่ยนไป รวมไปถึงเรื่องราวชีวิตในด้านความรัก
4. Kikazaru Koi niwa Riyuu ga Atte
อีกหนึ่งซีรีส์ที่จะมาชวนให้ทุกคนผ่อนคลาย หลุดจากวงจรการทำงานหนักออกไปบ้างค่ะ เรื่องราวของ “คุรุมิ มาชิบะ” (รับบทโดย ฮารุนะ คาวากุชิ) สาว PR บริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ทุ่มกับงานให้ทั้งกายและใจ จริงจังกับงานที่ทำ และในขณะเดียวกันเธอก็ยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอีกด้วย ทำให้เธอละวันเธอยุ่งตลอดเวลา และง่วนอยู่กับ Social Media วันหนึ่งเธอมีเหตุทำให้ต้องหาที่พักใหม่ เลยตัดสินใจมาอยู่กับรุ่นพี่คนสนิทของเธอ แต่พอมาถึงบ้านก็ได้พบความจริงที่ไม่รู้มาก่อนว่า ที่นี่คือบ้านแชร์เฮ้าส์ที่มีคนอยู่ถึง 4 คน และการย้ายมาที่นี่ทำให้เธอได้รู้จักกับ “ชุน ฟูจิโนะ” (รับบทโดย ริวเซย์ โยโกฮาม่า) ชายหนุ่มที่มีไลฟ์สไตล์สบายๆ มีชีวิตอย่างเรียบง่าย ซึ่งตรงกันข้ามกับมาชิบะโดยสิ้นเชิง แม้จะไม่ค่อยถูกชะตากันเท่าไหร่ แต่ด้วยชีวิตที่ต่างกันสุดขั้ว ทำให้ต่างฝ่ายต่างได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน จากชีวิตที่มีแต่งานของมาชิบะ ก็เริ่มมีความรักเข้ามาแต่งแต้มให้มีชีวิตมากขึ้น
เป็นซีรีส์ที่ให้ทั้งแรงบันดาลใจการทำงาน เราจะเห็นเรื่องราวของชีวิตอินฟลูเอนเซอร์คนหนึ่ง และพนักงานอาชีพ PR คนหนึ่ง ที่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจมากๆ ดูไปก็อยากลุกขึ้นมาทำงานบ้าง แต่ในขณะเดียวกันซีรีส์ก็ได้สอดแทรกมุมมองอีกอย่างค่ะว่า ชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่เรื่องงานอย่างเดียว ควรบาลานซ์ให้เหมาะสม และเรื่องอื่นที่เข้ามาลาลานซ์ได้นั่นก็คือ “ความรัก” นั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้โมเม้นท์ฟินๆ ระหว่างพระ-นางก็น่ารักมาก จากไม่ถูกขี้หน้า กลายมาเป็นรักหวานแหวนจนน่าอิจฉาเลยค่ะ
5. Jimi ni Sugoi! Koetsu Garu Kono Etsuko
เรื่องราวของ “เอ็ตสึโกะ โคโนะ” (รับบทโดย ซาโตมิ อิชิฮาร่า) หญิงสาววัย 28 ปี ที่หลงใหลแฟชั่นมาก ๆ และมีความฝันอยากเป็นบรรณาธิการของนิตยสารแฟชั่น LASSY จนเข้าไปสมัครงานกับบริษัทนี้หลายรอบ จนคนในบริษัทจำหน้าได้ และแล้วด้วยความพยายามก็ทำให้เธอได้เข้าทำงานในบริษัทที่ใฝ่ฝัน แต่…แผนกที่เข้าไปกลับเป็นฝ่ายพิสูจน์อักษรของสำนักพิมพ์! ซึ่งดูเป็นงานที่เธอไม่ได้ใฝ่ฝันอยากจะทำ แถมดูไม่เหมาะกับเธอสักเท่าไหร่นัก แต่หัวหน้าแผนกกลับเห็นพรสวรรค์ในตัวเธอ และรับเธอเข้ามาเป็นนักพิสูจน์อักษรมือใหม่ โดยล่อว่าเธอจะสามารถใช้เส้นทางนี้ปีนไปสู่การเป็นบรรณาธิการแฟชั่น!
ด้วยเหตุนี้เอ็ตสึโกะเลยตัดสินใจลองทำอาชีพนักพิสูจน์อักษรดูสักตั้ง ในระหว่างที่เธอกำลังคิดหนักกับเรื่องหน้าที่การงาน ก็มีความรักที่ไหนไม่รู้เดินเข้ามาทักทายอย่างจัง เธอก็ได้ไปสะดุดรักโดยบังเอิญกับชายหนุ่มมหาวิทยาลัยรูปงาม ที่มารู้ทีหลังว่าเขากำลังเป็นนายแบบคนใหม่ของนิตยสาร LASSY และดันเป็นเจ้าของผลงานนวนิยายแสนน่าเบื่อที่เธอกำลังปรู๊ฟอยู่ด้วย! และแล้วเรื่องราวชุลมุนของสาวนักพิสูจน์อักษรกับความรักต่างวัยแสนอลเวงได้เริ่มต้นขึ้น
เป็นซีรีส์ที่ให้ความรู้และมุมมองของอาชีพนักพิสูจน์อักษรได้อย่างลุ่มลึกมากค่ะ และยังให้พลังบวกในเรื่องการทำงานอีกด้วย และซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีแต่เรื่องงานอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊กน่ารักๆ ผสมผสานเข้ามาอีกด้วย เลยทำให้เป็นซีรีส์การทำงานที่ดูละมุน หัวใจกระชุ่มกระชวย มีชีวิตชีวาขึ้นมาเลยค่ะ
นี่ก็คือซีรีส์ญี่ปุ่นแนวทำงานที่ผสมผสานเรื่องราวความรักเข้าไปด้วย ทำให้ซีรีส์แนวการงานที่อาจดูหนักๆ ดูละมุนขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ใครอยากหาซีรีส์สร้างแรงบันดาลใจการทำงาน พร้อมเสพความรู้สึกฟิน มีความรัก ขอแนะนำลิสต์ซีรีส์ญี่ปุ่นนี้เลยค่ะ รับรองว่าดูแล้วสนุก เพลิดเพลิน แล้วใจฟู
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องแนะนำ :
– รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น Destiny เรื่องราวความรักและปริศนาที่ชะตาฟ้าลิขิตให้มาพบเจอ
– ซีรีส์ญี่ปุ่น แนวบทสนทนาเรื่อย ๆ แต่กินใจ ดูเพลินจนไม่อยากให้ถึงตอนจบ
– แนะนำซีรีส์ญี่ปุ่นแนวพระเอกฉลาดแบบเทพๆ ใน Netflix
– Extremely Inappropriate! ซีรีส์ข้ามเวลาโชวะสู่เรวะ เรียนรู้ชีวิตจากคนต่างรุ่น
– รีวิว Konkatsu 1000 Bon Knock ภารกิจสละโสดฉบับกุ๊กกู๋
ขอขอบคุณรูปภาพจาก:
– https://wiki.d-addicts.com/
– https://asianwiki.com/
#5 ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวทำงาน ที่มุ่งทั้งรักและงาน แบบฟินๆ