ซีรีส์ญี่ปุ่น แนวบทสนทนาเรื่อย ๆ แต่กินใจ ดูเพลินจนไม่อยากให้ถึงตอนจบ
ถ้าพูดถึงซีรีส์ญี่ปุ่น หลายคนน่าจะนึกถึงจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือ ซีรีส์ที่มีเรื่องราวไม่หวือหวา และเต็มไปด้วยบทสนทนาอันแสนธรรมดา เหมือนจะไม่มีอะไรน่าติดตาม แต่มารู้ตัวอีกที ก็หลงใหลไปกับเรื่องราว และบทสนทนากับราบเรียบเหล่านั้นไปเสียแล้ว วันนี้เลยอยากจะมาแนะนำซีรีส์ญี่ปุ่นแนวบทสนทนาเรื่อยๆ บทไม่ได้หวือหวา แต่กลับดูสนุกจนเพลิน ไม่อยากให้ถึงตอนจบ ว่าแต่จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามมาอ่านรีวิวกันได้เลยค่ะ
1. Turn to Me Mukai-Kun
เรื่องราวของชายหนุ่มวัย 33 ปี ที่ชื่อว่า “มุไค” เขาเป็นหนุ่มหน้าตาดี มีฐานะ และหน้าที่การงานที่โอเค แต่ครองโสดมายาวนานถึง 10 ปี จนวันนึงเขาเลยรู้สึกว่า ถึงเวลาที่เราต้องหาแฟนเป็นตัวเป็นซะแล้ว และหลังจากนั้น ชีวิตของมุไคก็เริ่มเจอความรักแวะเข้ามาทักทาย แต่ด้วยความที่ห่างหายความรักไปนาน เลยดูอ่อนหัดไปกับสนามความรัก จนต้องพึ่งพา “โคกิ ซาไกะโดะ” เพื่อนสาวที่รู้จักโดยบังเอิญ ในร้านอาหารของพี่เขย ที่คอยเป็นศิราณี ให้คำปรึกษาเรื่องหัวใจ
ถ้าเปิดดูเรื่องนี้ดูในตอนแรกๆ อาจจะรู้สึกว่า เรื่องราวดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ ไม่ได้มีอะไรหวือหวา มีแค่ฉากที่มุไคชอบบ่นครุ่นคิดกับตัวเอง และบทสนทนาที่คุยกับเพื่อนคนสนิทในร้านอาหาร แต่บทสนทนาอันราบเรียบนี้กลับเป็นเสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ ที่ค่อยๆ ทำให้เราเข้าใจชีวิตของการมีคู่ได้อย่างลึกซึ้งขึ้น และค่อยๆ เข้าใจตัวตนของมุไคคุง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตกหลุมรักซีรีส์เรื่องนี้ อยากดูต่อไปเรื่อยๆ จนไม่อยากให้เรื่องราวเรื่องนี้เดินไปถึงตอนสุดท้ายเลย
2. Life’s Punchline
อีกหนึ่งซีรีส์คุณภาพที่ให้แง่คิดชีวิตได้ดีมากๆ อีกเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก รื่องราวของ “ฮารุโตะ” (รับบทโดย มาซากิ สุดะ) “ชุนตะ” (รับบทโดย เรียวโนะสุเกะ คามิกิ) และ “จุนเป” (รับบทโดย ไทกะ นากาโนะ) ชายหนุ่ม 3 คนวัย 20 ปลายๆ กำลังจะย่างเข้าสู่วัย 30 พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยม.ปลาย และมีความฝันเดียวกันคือ อยากเป็นคณะตลกที่ประสบความสำเร็จ พวกเขาเลยตัดสินใจที่จะสร้างวงคณะตลกด้วยกัน ชื่อวงว่า “แม็คเบธ” แต่ก่อตั้งวงมาหลายปี แต่คณะตลกที่ว่านี้ก็ยังไม่เข้าใกล้สิ่งที่เรียกว่า “ความสำเร็จ” เลย
แต่ถึงอย่างนั้นคณะตลกของเขาก็ทำให้ชีวิตของ “นากาฮาม่า” (รับบทโดย คาซุมิ อาริมูระ) ได้เปลี่ยนแปลงไป หญิงสาวที่ชีวิตเหมือนโดนคลื่นทะเลซัดเข้าอย่างหนัก เคราะห์ซ้ำกรรมซัด นอกจากจะต้อองลาออกจากงาน ยังโดนแฟนที่คบกันมานานบอกเลิก ชีวิตเหมือนสิ้นไร้หนทาง แต่วันหนึ่งเขาได้มาเจอคณะตลกแม็คเบธ ที่ช่วยเยียวยาจิตใจที่พังให้ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง และเรื่องราวชีวิตของทุกคนก็ได้เชื่อมโยงกันอย่างปาฏิหาริย์ พร้อมแง่มุมบางอย่าง ที่บางทีก็อดขำทั้งน้ำตาไม่ได้
ซีรีส์ที่ไม่ได้เดินเรื่องหวือหวา แต่เรื่องราวและบทสนทนาที่แสนธรรมดา กลับกินใจ มันเหมือนเป็นชีวิตที่ใครหลายคนน่าจะเคยประสบพบเจอมา ชีวิตที่ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ ที่เราต่างต่อสู้กับการเดินทางตามความฝัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเดินไปถึงจุดนั้น แล้วถ้าชีวิตเรากำลังตกอยู่ในสภาพแบบนั้น ควรจะมองชีวิตในมุมไหน และเดินต่อไปอย่างไรดี ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เราเห็นถึงสิ่งที่เรียกว่า “ความสำเร็จ” ในมุมมองที่ต่างออกไป เรื่องราวของคณะตลก ที่ชีวิตจริงไม่ได้ตลกขนาดนั้น แต่ชวนให้เราขบคิดถึงเรื่องชีวิต ความสัมพันธ์ และการลงมือทำสิ่งที่มีความหมาย จนหัวใจของเราเต้นแรงไปกับเรื่องราวที่ราบเรียบแสนธรรมดาอย่างน่ามหัศจรรย์
3. Brush Up Life
สุดยอดซีรีส์ญี่ปุ่นแห่งปี 2023 ที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย และเป็นเรื่องที่ใครต่อใครต่างออกปากว่า พล็อตสนุก เกินความคาดหมาย แต่อีกหนึ่งเสียงที่มักจะได้ยินบ่อยไม่แพ้กันเลยคือ มันออกจะเป็นซีรีส์ที่เรื่อยๆ หน่อยนะ ยิ่งตอน EP แรกๆ เนี่ย เรียกได้ว่า แทบจะไม่มีใครชวนให้ลุ้นหรืออยากติดตามสักเท่าไหร่ แต่พอดูไปเรื่อยๆ สนุกจนหยุดดูไม่ได้เลยทีเดียว อารมณ์เหมือนกำลังเล่นรถไฟเหาะ ที่ตอนเดินเครื่องแรก ไม่ได้หวาดเสียว ตื่นเต้นอะไรมาก แต่พอเครื่องติดแล้วเท่านั้นแหละ สนุกสุดเหวี่ยง ซีรีส์เรื่องนี้ก็เช่นกันค่ะ
สำหรับเรื่องราวย่อๆ ของ Brush Up Life นั้นเป็นเรื่องราวของ “คอนโดะ อาซามิ” (รับบทโดย ซากุระ อันโดะ) หญิงโสดวัย 33 ปี ที่เสียชีวิตกะทันหัน หลังจากนั้นเธอก็อยู่ในห้องสีขาวๆมีชายคนหนึ่งที่คอยรับเรื่องอยู่ พอได้รู้ว่า ชาติหน้าต้องเป็นอะไร เล่นซะเอาไม่อยากจะไปเลย แต่ก็มีเรื่องน่าประหลาดใจคือ เธอสามารถเลือกได้อีกเหมือนกันว่า “จะไปใช้ชีวิตใหม่” หรือ “กลับไปแก้ไขชีวิตเดิมอีกครั้ง”
ตลอดทั้งเรื่องเราจะรู้เรื่องราวต่างๆ หรือมุมคิดของตัวละคร ผ่านบทพูดของตัวละครเอก “คอนโดะ อาซามิ” ค่ะ ไม่ว่าถ้าจะคิดอะไร ก็จะมีเสียงของเธอดังออกมาเรื่อยๆ เหมือนมานั่งคุยให้เราฟัง ส่วนเรื่องราวก็มักจะดำเนินไปตามบทสนทนาของตัวละครแต่ละคนเป็นหลัก แต่พวกบทสนทนาเหล่านี้นี่แหละค่ะ ที่ทำให้เราเข้าใจแง่คิดชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง และถ้าอยากรู้ว่าเรื่องราวกำลังจะเดินไปทางไหน ก็ต้องฟังและสังเกตบทพูดของตัวละครให้ดีๆ เรียกได้ว่า เป็นเรื่องที่มีบทสนทนาทำหน้าที่ในการดำเนินเรื่องได้อย่างงดงามเลยจริงๆ ค่ะ
4. Extremely Inappropriate!
มาที่เรื่องสุดท้ายที่อยากจะมาแนะนำค่ะ เป็นซีรีส์ที่เพิ่งฉายไปเมื่อต้นปีนี่เอง กับเรื่อง Extremely Inappropriate! เรื่องราวของ “อิจิโร่ โองาว่า” (ซาวาโดะ อาเบะ) ครูสอนพละและพ่อเลี้ยงเดี่ยวในยุคโชวะ ที่ได้ข้ามเวลาหลงยุคมายังปี 2024 หรือยุคเรวะ และต้องพบเจอกับความโกลาหลมากมาย และยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ได้พบว่า “ซากาเอะ ซากิซากะ” (รับบทโดย โย โยชิดะ) สาวนักสังคมวิทยา แม่ลูกหนึ่ง ได้ข้ามเวลาจากยุคเรวะมายังยุคโชวะเช่นกัน! จากการข้ามเวลานี้ทำให้ทั้งคู่ได้พบเจอเรื่องราวมากมาย เห็นความแตกต่างทางสังคม และยุคสมัย รวมไปถึงความสัมพันธ์กับคนที่เขารัก
สำหรับเรื่องนี้ ก็อย่างเช่นเรื่องอื่นๆ ที่เล่ามาค่ะ ใน EP แรกๆ เรื่องจะดำเนินไปอย่างราบเรียบสักหน่อย เหมือนมานั่งฟังคุยกันไปคุยกันมา แต่พอดูไปได้สักพัก ก็จะเริ่มสนุกขึ้น ตรงที่เริ่มมีเรื่องราวแปลกประหลาด และปริศนาต่างๆ โผล่เข้ามา ที่ชวนให้เราคิดตามว่า การข้ามเวลานี้เกิดขึ้นได้อย่างไร โองาว่าจะจัดการชีวิตที่คาราคาซังนี้ในรูปแบบไหน และผู้คนที่พบเจอในยุคโชวะและเรวะ มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร เกี่ยวกับข้องกันยังไงบ้าง
แต่ระหว่างเรื่อง มันก็จะมีประเด็นทางสังคมมากมาย ที่สะท้อนผ่านบทพูดของตัวละครค่ะ ที่พอนั่งฟังแล้วก็ได้ข้อคิดดีปๆ กลับไปอยู่เยอะเหมือนกัน และเริ่มเข้าใจมุมมองชีวิตของคนต่างยุค ต่างวัยได้อย่างลึกซึ้งขึ้น รวมถึงชีวิตในมุมครอบครัว และความสัมพันธ์ต่างๆ ด้วย เรื่องราวเรื่องนี้ไม่ได้ราบเรียบเสียทีเดียว เพราะมีเรื่องข้ามเวลามาช่วยให้เรื่องน่าติดตามมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นละครที่เต็มไปด้วยบทสนทนาลึกซึ้งมากมาย ที่มอบพลังอะไรบางอย่างเมื่อดูจบแล้วเช่นกันค่ะ
นี่ก็คือซีรีส์ญี่ปุ่นแนวบทสนทนาเรียบๆ บางเรื่องก็เหมือนเรามานั่งฟังคนคุยกัน แต่กลับสนุกและน่าติดตามอย่างบอกไม่ถูก และที่สำคัญซีรีส์แนวนี้มักจะชวนให้เราฉุกคิดและตระหนักถึงชีวิตในมุมต่างๆ ได้อย่างดีด้วย จนเกิดเป็นพลังอยากกลับไปเปลี่ยนชีวิตต่อจากนี้ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ใครสนใจที่อยากดูละครที่ได้รีวิวไป สามารถรับชมได้ทาง Netflix กันได้เลยค่ะ
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องแนะนำ :
– แนะนำซีรีส์ญี่ปุ่นแนวพระเอกฉลาดแบบเทพๆ ใน Netflix
– Extremely Inappropriate! ซีรีส์ข้ามเวลาโชวะสู่เรวะ เรียนรู้ชีวิตจากคนต่างรุ่น
– รีวิว Konkatsu 1000 Bon Knock ภารกิจสละโสดฉบับกุ๊กกู๋
– The Parades เรื่องราวชีวิตหลังความตาย ที่ชวนให้เราอยากมีชีวิตต่อไป
– House of Ninjas ซีรีส์แอ็กชันสไตล์ญี่ปุ่น เรียบเรื่อยแต่งดงาม รวมหลายอารมณ์ในเรื่องเดียว
ขอขอบคุณรูปภาพจาก:
– https://asianwiki.com/
– https://www.imdb.com/
– https://agoodmovietowatch.com/
– https://www.comingsoon.net/
#ซีรีส์ญี่ปุ่น แนวบทสนทนาเรื่อย ๆ แต่กินใจ ดูเพลินจนไม่อยากให้ถึงตอนจบ