วันนี้เราเคยขอนำเสนอซีรีส์ญี่ปุ่นแนวกีฬา แต่ละเรื่องไม่ได้คว้าชัยชนะในเกมมาได้อย่างง่ายๆ จนทำให้คนดูต้องคอยเอาใจเชียร์สุดพลังในระหว่างที่ดูเลยล่ะค่ะ
ช่วงนี้ในแวดวงกีฬากำลังคึกคัก วันนี้เราเคยขอนำเสนอซีรีส์ญี่ปุ่นแนวกีฬา แต่ละเรื่องไม่ได้คว้าชัยชนะในเกมมาได้อย่างง่ายๆ จนทำให้คนดูต้องคอยเอาใจเชียร์สุดพลังในระหว่างที่ดูเลยล่ะค่ะ ที่ดูแล้วนอกจากจะได้ความรู้เรื่องกีฬา และยังได้ข้อคิดชีวิตจากเกมกีฬาอีกด้วย ว่าแต่จะมีเรื่องไหนน่าสนใจ และแต่ละเรื่องเกี่ยวกับกีฬาอะไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลยค่ะ
1. Pride
ใครเป็นแฟนละครญี่ปุ่นต้องรู้จักกับเรื่องนี้แน่ๆ ค่ะ เป็นอีกซีรีส์ญี่ปุ่นดังในตำนาน นำแสดงโดยพระเอกตลอดกาลของญี่ปุ่นอย่าง “ทาคุยะ คิมูระ” ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ก็ถ่ายทอดชีวิตในมุมของความภาคภูมิใจเกียรติยศ และการต่อสู้ของลูกผู้ชายทั้งในเรื่องเกมกีฬาและความรัก
เรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับทีมไอซ์ ฮ็อกกี้ที่โด่งดังทีมหนึ่ง มีดาวเด่นคือ “ฮารุ” (ทาคุยะนั่นแหละค่ะ) เขานับถือและสนิทกับโค้ชของเขา ก่อนที่โค้ชจะจากโลกนี้ไป ก็ได้สอนสิ่งหนึ่งไว้ว่า หากอยากเอาดีเรื่องกีฬา อย่าคิดจะมีความรัก เพราะสิ่งนี้จะกวนใจ ทำให้จิตใจเราไม่กล้าหาญมากพอ ส่งผลให้เราเล่นได้ไม่เต็มที่ ถ้าจะมีก็ขอแค่ให้ความรักนั้นเป็นเกมๆ หนึ่ง
ต่อมาฮารุและเพื่อนของเขาได้ไปสังสรรค์ที่บาร์แห่งหนึ่ง แล้วก็ได้พูดคุยกันประเด็นนี้ และสักพักทั้งกลุ่มก็เหลือบไปเห็นสาวสวย จึงเริ่มท้าฮารุว่า ถ้าเราสามารถมีความรักแบบเกมได้จริง ก็ลองทำให้เห็นหน่อยสิ
ตอนแรกฮารุปฏิเสธ แต่ผลสุดท้ายก็รับคำท้านี้ เดินเข้าไปทำความรู้จักกับหญิงสาว แลกอีเมลกัน ซึ่งผู้หญิงคนนี้ชื่อว่า “อากิ” (รับบทโดย ยูโกะ ทาเคยูกิ) ส่วนสถานะตอนนี้กำลังรอแฟนที่ไปทำงานต่างประเทศ แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มาสักที เธอก็เลยคิดซะว่าก็ขอลงเล่นเกมความรักนี้ฆ่าเวลาระหว่างรอแฟน
ส่วนฮารุเองก็มีเหตุผลเพียงฆ่าเวลาจนกว่าจะได้เริ่มความสัมพันธ์กับใครอย่างจริงจังหลังจากที่เขาเลิกเล่นไอซ์ ฮอกกี้ ต่างฝ่ายต่างเลือกลงเล่นเกมนี้ แต่เมื่อเกมได้เริ่มต้นขึ้น ก็เริ่มทำให้ทั้งคู่ว่า นี่มันไม่ใช่เกมของความรัก!
2. H2
กีฬายอดฮิตของญี่ปุ่นก็คือเบสบอล และซีรีส์เรื่องนี้ก็ให้ความรู้สึกว่าเหมือนเรากำลังดูเบสบอลที่สนุกเหมือนอยู่ติดขอบสนามจริงๆ ผสมเรื่องราวชีวิตการต่อสู้ของนักกีฬากว่าจะก้าวไปถึงชัยชนะ
เป็นเรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยนักกีฬาเบสบอลฝีมือดี มีไฟลุกโชนอย่าง “ฮิโระ” (รับบทโดย ทาคายูกิ ยามาดะ) และ “โนดะ” (รับบทโดย อาคิโยชิ นาคาโอะ) ที่วันหนึ่งเขาทั้งคู่ไปตรวจร่างกายและพบว่าผิดปกติจนทำให้ไม่สามารถเล่นเบสบอลได้อีก เลยทำให้เขาทั้งสองย้ายไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ไม่มีชมรมเบสบอลเลย เพราะว่าที่นี่เคยมีอดีตฝังใจที่ไม่สามารถไปถึงสนามโคชิเอ็งสังเวียนอันศักดิ์สิทธิ์ของนักกีฬาเบสบอล แต่ถึงอย่างนั้น “ฮารุ” (รับบทโดย ซาโตมิ อิชิฮาร่า) หญิงสาวที่มีใจรักเบสบอล ที่อยากสร้างชมรมนี้ขึ้นมา และพาไปสู่โคชิเอ็งให้ได้
แต่ก็เป็นไปอย่างลุ่มๆ ดอนๆ เพราะในโรงเรียนไม่มีใครสนใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่นัก ส่วนฮิโระกับโนดะก็ดันเล่นไม่ได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บของร่างกาย ฮารุเกือบสิ้นหวัง แต่แล้วก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นว่า จริงๆ แล้ว ฮิโระกับโนดะไม่ได้เป็นอะไร หมอแค่วินิจฉันผิด และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่ร่วมจับมือกับฮารุเพื่อสร้างชมรมเบสบอลขึ้นมาให้ได้ และจะพาไปสู่โคชิเอ็งและนำชัยชนะกลับมา แต่ว่าในระหว่างทางก็มีเรื่องราวมากมาย ทั้งการต่อสู้ในเกมกีฬา และเรื่องความรักของวัยหนุ่มสาว
เป็นซีรีส์แนวกีฬาที่ดูแล้วรู้สึกฮึกเหิมมาก เหมือนทีมชมรมที่มีความฝัน และอยากไปให้ถึงไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากแค่ไหนก็ตาม และยังมีเรื่องราวความรักเข้ามาผสมที่ทำให้ละครมีความเข้มข้นขึ้นไปอีกค่ะ
3. Buzzer Beat
ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ หลายคนคงเห็นภาพว่าเป็นละครแนวรักโรแมนติกมากกว่า แต่จริงๆ แล้วเป็นซีรีส์เรื่องหนึ่งที่นำเสนอเกี่ยวกับกีฬาบาสเก็ตบอลได้เลยค่ะ
ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ “นาโอกิ” (รับบทโดย ยามะพี) นักเบสบอลอาชีพ ที่ดูเผินๆ ดูเป็นชายหนุ่มที่ดูดี แสนเพอร์เฟ็ค เล่นบาสเท่ๆ บนสนาม แต่เอาจริงๆ แล้วเขายังไม่ประสบความสำเร็จในด้านการเล่นบาสเก็ตบอลนัก พยายามเท่าไหร่ก็ยังไปไม่ถึงฝั่ง ส่งผลกระทบต่อความรัก ซึ่งแฟนสาวเธอเป็นคนที่มีหน้ามีหน้า มีความทะเยอะทะยานสูงมาก เป็นเรื่องอึดอัดที่เธอจะต้องรักกับชายที่แสนจะธรรมดา แถมยังไม่อยู่ในชั้นแนวทางของบาสเก็ตบอล ทำให้เธอเริ่มคิดเรื่องจะตีตัวออกห่างจากเขา
แต่ในขณะเดียวกันนาโอกิก็ได้เจอกับ “ริโกะ” (รับบทโดย เคย์โกะ คิตากาว่า) สาวไวโอลินที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นมืออาชีพแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เธอมาประกาศตัวว่าเป็นแฟนคลับของนาโอกิและคอยให้กำลังใจเขาในหลายๆ เรื่อง จนทำให้ความรู้สึกของทั้งคู่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมา แม้นาโอกิจะมีแฟนอยู่แล้ว แต่เขาก็รู้สึกว่าการได้พูดคุยกับริโกะนั้นสร้างความมั่นใจและแรงบันดาลใจให้กับเขา ส่วนริโกะเองก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน
นี่ก็เป็นเรื่องราวของนักบาวเก็ตบอลขาลงกับสาวไวโอลินฝึกหัด ที่ต่างยังไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกัน แต่ก็ช่วยกันเป็นแรงผลักดันให้ถึงเส้นชัยของแต่ละคน ส่วนเรื่องความรักอิรุงตุงนังจะเป็นยังไง ต้องติดตามต่อในละครจ้า
4. Rookies
อีกหนึ่งเรื่องที่เกี่ยวกับกีฬาเบสบอลค่ะ (ฮอตจริงๆ) เป็นซีรีส์ที่สร้างมาจากมังงะชื่อดัง ตัวละครเอกของเรื่องนี้เลยก็คือ อย่าง “โคอิจิ คาวาโตะ” (รับบทโดย เรียวตะ ซาโตะ) ครูหนุ่มเลือดร้อน ไฟแรง มาพร้อมกับความหวังอันแรงกล้า และจะขอฟอร์มทีมเบสบอลไปชิงชัยที่โคชิเอ็ง แต่ต้องมาเจอกับเด็กนักเรียนสุดเฮี้ยวของโรงเรียนที่ไร้ซึ่งความหวังในอนาคต ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอะไร ไม่แม้แต่จะรู้สึกว่า “อยากทำอะไร” ต่อไปในชีวิตนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กพวกนี้เลิกเล่นเบสบอลไปนานแล้ว ด้วยเรื่องฝังใจในอดีต ที่เกิดเรื่องต่อสู้กันกลางสนาม อาจารย์หักหลังพวกเขา และโค้ชก็ทิ้งพวกเขาไป ทำให้เด็กๆ รู้สึกไม่เชื่อใจของครูผู้มาใหม่คนนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรโคอิจิก็จะรวบรวมพลัง สร้างแรงบันดาลใจ จุดไฟในตัวทุกคน ให้กลับมาเล่นเบสบอลอย่างมีความหวังและความฝันอีกครั้ง
นี่คือเรื่องราวเรื่องราวของอาจารย์ที่เสียสละในการพยายามปฏิรูปทีมเบสบอล สร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยปัญหา และสับสนในช่วงรอยต่อของชีวิต พร้อมรวมสมาชิกที่เลิกเล่นเบสบอลแล้ว ให้กลับมาเล่นเบสบอลอีกครั้ง แล้วมุ่งสู่ชัยชนะที่โคชิเอ็ง
5. Yowakutemo Katemasu
อีกหนึ่งเรื่องที่ผสมเรื่องราวของกีฬายอดฮิตอย่าง “เบสบอล” เข้ากับซีรีส์แนวละครวัยรุ่นวัยเรียนได้อย่างลงตัวค่ะ เรื่องนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปที่ต์น่าสนใจตรงที่ว่า เป็นเรื่องราวของทีมเบสบอลที่ไม่ได้เก่งกาจ แต่พร้อมที่จะลงสนามเพื่อคว้าชัยชนะมาให้ได้จะมาทำให้รู้ โดยมีคุณครูหน้าใหม่อย่าง “อาโอชิ ทาโม่” (รับบทโดย นิโนะมิยะ คาซุนาริ) มาเป็นโค้ชให้ เขามีดีกรีจบจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ชีวิตพลิกผันต้องมาเป็นครูสอนในโรงเรียนที่มีแต่เด็กเรียนเก่ง เข้มงวดสอนเด็กให้เข้ามหาวิทยาลัย
แม้โรงเรียนนี้จะเต็มไปด้วยเด็กเรียนเก่ง แต่ถ้าเป็นเรื่องกีฬาแล้วล่ะก็…สู้ใครไม่ได้เลยค่ะ และสืบไปสืบมา โรงเรียนแห่งนี้ก็คือโรงเรียนเก่าของอาโอชิในสมัยเรียนมัธยมนั่นเอง เท่ากับว่าเขาก็เป็นศิษย์เก่าคนหนึ่งของโรงเรียนนี้ และเขาเองก็ตั้งใจที่จะมาทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้สมกับที่ได้ร่ำเรียนมาด้วย
แต่จู่ๆ อาโอชิต้องมารับอีกหนึ่งหน้าที่คือเป็น “ผู้จัดการทีมเบสบอล” ของโรงเรียนค่ะ ทีมเบสบอลที่… “ไม่เคยชนะ” ใครเลยมาเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งชมรมเบสบอลมา ส่วนอาโอชิเองก็มีเรื่องราวอันน่าเจ็บปวดเกี่ยวกับกีฬาเบสบอลในสมัยที่เรียน ก็เท่ากับว่า “ให้คนขี้แพ้มาเป็นโค้ชของคนขี้แพ้”
แม้ว่าจะเป็นคนขี้แพ้ แต่นี่ก็กลายเป็นอีกหนึ่งภารกิจอันยิ่งใหญ่ ที่เขาต้องพาให้เด็กๆ ที่ไม่เคยชนะใคร ก้าวเข้าสู่ “ชัยชนะ” ให้ได้แต่…ชัยชนะที่ว่านี้ก็ไม่ได้สวยหรูค่ะ แม้จะพยายามกันจนแทบเป็น แทบตาย แต่…ในการแข่งขันครั้งแรก…เด็กกลุ่มนี้กลับพ่ายแพ้ค่ะ แพ้ไปอย่างราบคาบ ด้วยคะแนน 53-0! แน่นอนว่า ความรู้สึกของเด็กๆ พวกนั้น เต็มไปด้วยความเสียใจ ยิ่งลงแข่ง ก็ยิ่งรู้ว่าตัวเองไม่เอาไหน
แต่นี้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของก้าวต่อไป ที่จะเอาชัยชนะมาให้ได้ แม้จะต้องเหนื่อยยาก พยายามหลายเท่าตัว หรือต้องรอคอยชัยชนะอย่างยาวนาน แต่พวกเขาก็ตั้งมั่นแล้วว่า ถ้าจะแพ้ก็ขอแค่วันนี้ ก็ลองติดตามกันได้ที่เรื่องนี้ค่ะว่า ท้ายที่สุดแล้วเด็กๆ จะคว้าชัยชนะมาได้หรือไม่!
นี่ก็คือซีรีส์ญี่ปุ่นที่มีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับกีฬา ขอบอกว่าสนุกสุดๆ บางเรื่องส่วนตัวเองก็ดูกีฬานั้นๆ ไม่เป็นหรอกค่ะ แต่พอดูผ่านละครก็ทำให้เริ่มเข้าใจ กลายเป็นว่าสนุกกับการนั่งดู นั่งเชียร์กีฬาไปเลย บางเรื่องก็ฮึกเหิมจนจุดประกายให้อยากลองลงแข่งกับเขาบ้างเหมือนกัน
ใครอยากดูละครญี่ปุ่นแนวนี้ สามารถหาดูได้ตามลิสต์นี้เลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง หรือใครมีเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจก็แนะนำเข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– ย้อนไปดู 5 ไอดอลชายญี่ปุ่น ยุค 90-2000s ตอนนี้เป็นยังไงกันบ้าง
– Review ซีรีส์ญี่ปุ่น BG บอดี้การ์ด ปกป้องชีวิตได้ด้วยมือเปล่า
– 5 ซีรีส์ดังของ “ซากาอิ มาซาโตะ” ไว้ดูรอ Hanzawa Naoki ภาค 2
– รีวิว Legal V ทนายไม่มีใบอนุญาต ขอเรียกความยุติธรรมให้ผู้คน
– 5 ซีรีส์วัยเรียนชื่อดังในวันวาน ที่ตอนนี้นักแสดงโตเป็นหนุ่ม-สาวแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
– http://asianwiki.com/
– http://baike.kantsuu.com
– https://film-enthusiast.blogspot.com
– https://atmick.blog.ss-blog.jp
#ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวกีฬา