สุกี้ยากี้ และเที่ยวบิน JL123
เมื่อเอ่ยถึง ‘สุกี้ยากี้’ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่คงรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่วันนี้เราจะไม่พูดถึงสุกี้ยากี้ที่เป็นอาหาร แต่จะพูดถึง ‘เพลงสุกี้ยากี้’ ที่เรา ๆ ท่าน ๆ รู้จักกันดี
เพลงนี้ขับร้องโดย ซะกะโมะโตะ คิว (坂本九) ซึ่งมีชื่อและนามสกุลจริง ๆ ว่า โอชิมะ ฮิซะชิ (大島九) จริง ๆ แล้วคุณพ่อของฮิซะชิเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่งก่อนมาแต่งงานกับคุณแม่ของฮิซะชิ ฮิซะชิเป็นลูกคนที่ 9 ของฝ่ายพ่อเมื่อนับรวมภรรยาคนเดิมของพ่อ เขาเลยได้ชื่อว่า ‘เก้า (九)’ แต่ให้มีลูกเล่นคือให้อ่านออกเสียงว่า ‘ฮิซะชิ’ แต่ภายหลังคุณพ่อคุณแม่ก็หย่ากัน ฮิซะชิไปอยู่ในอุปการะของญาติฝ่ายแม่ จึงใช้นามสกุล ‘โอชิมะ’ ตามฝ่ายแม่ แต่เมื่อเข้าสู่วงการร้องเพลงเมื่ออายุ 17 เขาเลือกกลับไปใช้นามสกุลของพ่อคือ ‘ซะกะโมะโตะ’ มาใช้ในวงการบันเทิง และใช้อักษร ‘เก้า’ ที่อ่านเสียงแบบปกติ จึงมีชื่อในวงการว่า ซะกะโมะโตะ คิว นั่นเอง
เพลงสุกี้ยากี้จริง ๆ มีชื่อญี่ปุ่นว่า อุเอะโอะ มุอิเตะ อะรุโค (上を向いて歩こう) ที่แปลว่า เงยหน้าเดินกันเถอะ เดบิวต์ในญี่ปุ่นเมื่อปี 1961 ซึ่งญี่ปุ่นยังอยู่ระหว่างฟื้นฟูประเทศที่พินาศหลังสงครามโลก จึงฮิตติดตลาดในญี่ปุ่นมากเพราะเพลงออกไปทางเศร้าแบบมีกำลังใจฮึกเหิม อีกทั้งน้ำเสียงของฮิซะชิและทำนองติดหูง่ายมาก เมื่อฮิตแล้วทางทีมผู้ผลิตก็มีความพยายามส่งแผ่นเสียงไปขายที่ยุโรปในปี 1962 รวมทั้งพยายามให้ฮิซะชิไปออกรายการที่ยุโรปด้วย แต่ไม่ประสบความสำเร็จใด ๆ ในความพยายามครั้งแรก ปัจจุบันมีคนวิเคราะห์สาเหตุที่ไม่ฮิตเพราะว่าหน้าปกแผ่นเสียงถอดเสียงญี่ปุ่นตรงตัวว่า UE O MUITE ARUKOU ในยุคที่ตะวันตกยังไม่ค่อยมีใครรู้จักญี่ปุ่น ถึงคนฟังจะชอบเพลงก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ดีเจหรือพิธีกรที่จัดรายการก็อ่านไม่ออก เลยไม่รู้จะเรียก ‘ไอ้เพลงนั้น’ ว่าอะไร ทำให้เสียโอกาสสร้างความนิยมไปอย่างน่าเสียดาย
จนเมื่อมกราคม 1963 นักดนตรีแจ๊สของอังกฤษที่ชื่อ Kenny Ball ได้ตั้งชื่อเพลงนี้ใหม่ว่า SUKIYAKI แล้วออกอัลบั้ม Instrumental Cover ทำให้เพลงนี้โด่งดังขึ้นมาทันที และมีผลสืบเนื่องให้เพลงต้นฉบับกลายเป็นเพลงฮิตทั่วโลกเช่นกัน โดยในปี 1963 เพลงสุกี้ยากี้ต้นฉบับก็ทะยานขึ้นติด Top 10 ของ Billboard Chart ของอเมริกา ด้วยสถิติเป็น non-European Language เพียงเพลงเดียวในชาร์ต รวมทั้งเป็นซิงเกิ้ลเดียวที่ขับร้องโดยนักร้องจากเอเชียในชาร์ต และติดอยู่ใน Top 100 ของ Billboard ตลอดกาลตั้งแต่ 1963 จนกระทั่งปี 2020 ที่โดนวง BTS จากเกาหลีทำลายสถิติลงได้
จากคำสัมภาษณ์ของ Kenny ได้กล่าวว่า ชื่อเพลงว่า UE O MUITE ARUKOU คือมันไม่รู้จะอ่านว่าอะไร แต่ก็อยากได้ชื่อภาษาญี่ปุ่นให้มัน Exotic เลยคิดว่ายุคนั้นตะวันตกรู้จักญี่ปุ่นแค่ 2 อย่างคือ SUKIYAKI กับ SAYONARA (เพราะมีภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง SAYONARA ฉายแล้วเมื่อ ค. ศ. 1957 ฝรั่งเลยรู้จักคำนี้กันแพร่หลาย) Kenny ตัดสินใจใช้คำว่า SUKIYAKI แล้วก็ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงแห่งมนุษยชาตินับแต่บัดนั้น คนทั่วโลกไม่มีทางเข้าใจเนื้อเพลงภาษาญี่ปุ่นแน่นอน แต่สาเหตุที่ฮิตคือทำนองเพลงที่ฮึกเหิมมีกำลังใจแม้จะเศร้าก็ไม่ท้อถอย และชื่อเพลงที่เป็นตัวแทนแห่งญี่ปุ่นโดยแท้ เรียกว่าดนตรีคือภาษาสากลของโลกมนุษย์จริง ๆ
แต่แล้วก็เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น คือวันที่ 12 สิงหาคม ค. ศ. 1985 เที่ยวบิน JL123 ที่ฮิซะชิใช้เดินทาง ประสบอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 520 คนรวมทั้งฮิซะชิด้วย และมีผู้รอดชีวิตแต่บาดเจ็บสาหัส 4 คน เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เทศกาลโอบ้งของญี่ปุ่น รวมทั้งเป็นเครื่องบินที่มีแต่ชั้นประหยัดเกือบทั้งลำ (เนื่องจากบินแต่ในประเทศแค่ 1-2 ชั่วโมงก็ถึงที่หมาย) ทำให้จุผู้โดยสารได้จำนวนมาก อุบัติเหตุครั้งนี้จึงกลายเป็นสถิติโลกคืออุบัติเหตุทางการบินที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตในอากาศยานลำเดียวที่มากที่สุดในโลก สาเหตุคือเกิดระเบิดที่ท้ายตัวเครื่องเนื่องจากแผงกั้นปรับความดันอากาศท้าย (Rear Pressure Bulkhead) ฉีกขาด เมื่อตรวจสอบในภายหลังจึงพบว่าเครื่องบินลำนี้เคยเกิดอุบัติเหตุท้ายลำกระแทกกับพื้นรันเวย์ขณะลงจอดในวันที่ 2 มิถุนายน 1978 แต่ไม่ได้รับการซ่อมบำรุงที่ถูกต้องตามมาตรฐาน และนำไปสู่การเกิดอุบัติร้ายแรงในวันที่ 12 สิงหาคม ค. ศ. 1985
แต่เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2020 ที่ผ่านมาตอนเกือบเที่ยงคืน เที่ยวบิน JL123 ที่ระเบิดแหลกทั้งลำไปแล้วในปี 1985 กลับมาปรากฎบนของแอพ Flight Radar 24 ซึ่งเป็นแอพที่ที่ใช้สัญญาณดาวเทียมแสดงภาพการเคลื่อนที่ของเครื่องบินบนฟ้าบนหน้าจอมือถือ แม้ทาง JAL จะอธิบายว่าเป็นเพียงความผิดพลาดทางเทคนิคที่เจ้าหน้าที่กรอกรหัสเที่ยวบินผิด แต่หลายท่านก็ขนลุกขนพองไปตาม ๆ กัน เพราะใกล้กับเทศกาลโอบ้งที่วิญญาณของผู้ล่วงลับจะกลับมาเยี่ยมโลกมนุษย์ ก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นพอดีในเดือนที่ครบรอบ 35 ปีของโศกนาฏกรรมดังกล่าว ราวกับจะบอกว่า ‘อย่าลืมพวกเขา’ และ ‘รับผิดชอบต่อหน้าที่ให้ดีกว่าวันนั้นนะ’ เลยทีเดียว
เรื่องแนะนำ >>
– Tokyo Love Story 1991 และ 2020 – ความแปลกแยกและความผิดฝาผิดตัวแห่งโตเกียว
#สุกี้ยากี้ และเที่ยวบิน JL123