กลับมาอีกครั้งกับ Hanzawa Naoki ภาค 2 ซีรีส์ญี่ปุ่นที่คว้าเรตติ้งสูงสุดในยุคเฮเซ เพียงฉายไปแค่ 2 ตอนแรกก็คว้าเรตติ้งเฉลี่ยไปถึง 22% ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ในบรรดาละครทั้งหมดใน Season นี้
กลับมาอีกครั้งกับ Hanzawa Naoki ภาค 2 ซีรีส์ญี่ปุ่นที่คว้าเรตติ้งสูงสุดในยุคเฮเซ แม้จะเจอวิกฤต COVID-19 ที่ทำให้การถ่ายทำภาค 2 สะดุดไปเล็กน้อย แต่ตอนนี้ก็เดินหน้าต่อ และกำลังออนแอร์อยู่ทางโทรทัศน์ญี่ปุ่น เพียงฉายไปแค่ 2 ตอนแรกก็คว้าเรตติ้งเฉลี่ยไปถึง 22% ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ในบรรดาละครทั้งหมดใน Season นี้ ว่าแต่เรื่องราวในภาคนี้จะเป็นอย่างไร หลังจากที่โดนสั่งย้ายในภาค 1 ฮันซาว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง วันนี้จะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
เรื่องราวของ Hanzawa Naoki
ชีวิตของ “ฮันซาว่า นาโอกิ” (รับบทโดย ซากาอิ มาซาโตะ) นายธนาคารมากความสามารถ แต่แล้วชีวิตเขาก็ต้องพลิกผัน เมื่อต้องมารับผิดของผู้บังคับบัญชาที่เขาไม่ได้ก่อ นำไปสู่การค้นหาเบื้องลึกเบื้องหลัง ที่เปิดโปงเรื่องราวที่ไม่เป็นธรรมในองค์กร เหมือนฮันซาว่าจะถือไพ่เหนือกว่าศัตรูในองค์กร โค่นผู้มีอำนาจหลายคนที่กระทำผิดได้ แต่แล้วด้วยการกระทำของเขาเป็นเหตุให้ถูกสั่งย้ายจากธนาคารโตเกียวจูโออันยิ่งใหญ่ไปอยู่บริษัทหลักทรัพย์โตเกียวเซ็นทรัล ที่เป็นบริษัทลูก แม้เขาจะยังคงได้ตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย แต่ระดับหัวหน้าในบริษัทหลักทรัพย์นั้นเทียบไม่ได้กับความยิ่งใหญ่เมื่อเขาเป็นหัวหน้าที่ธนาคารโตเกียวจูโอเลย
วันหนึ่งบริษัทหลักทรัพย์โตเกียวเซ็นทรัลได้เข้าไปพัวกันกับการซื้อกิจการของบริษัท IT ยักษ์ใหญ่ ที่มีมูลค่ามากถึง 150,000 ล้าน แต่ว่าก็ต้องพลาดท่า โดนคู่แข่งอย่าง “อิซายามะ ไทจิ” (รับบทโดย เอ็นโนะสุเกะ อิจิคาว่า) เพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันที่ตอนนี้ได้ขึ้นตำแหน่งใหญ่โตในธนาคารโตเกียวจูโอขโมยงานชิ้นโบว์แดงนี้ไป กลายเป็นศึกใหญ่ระหว่างบริษัทแม่และบริษัทลูก มิหนำซ้ำฮันซาว่าก็ยังถูกพวกคนจากธนาคารกดดันพร้อมจะเขี่ยไปให้ไกล ไม่ใช่แค่การย้ายสาขา แต่ให้ถึงขั้นไม่สามารถกลับมาเป็นนายธนาคารได้อีกต่อไป ส่วนฮันซาว่าก็ยอมไม่ได้กับการเป็นฝ่ายถูกกระทำ และโดนแย่งงานไปซึ่งๆ หน้าด้วยวิธีการสกปรก เลยนำมาสู่การ “ใครทำอะไรไว้ให้ ก็จะต้องทดแทน” และแน่นอนว่า “ถ้าใครทำร้ายฉันล่ะก็ จะเอาคืนเป็นสองเท่า”
ความน่าสนใจใน Hanzawa Naoki ภาคสอง
1. การต่อสู้ชีวิตของฮันซาว่าในช่วงสิ้นไร้ไม้ตอก
จากตอนจบในภาคแรกทุกคนคงเห็นแล้วว่า ฮันซาว่าโดนย้ายไปสาขาอื่นจากการกระทำ “เอาคืนเป็นสองเท่า” ของเขา ในภาคสองนี้ก็จะเดินเรื่องต่อว่า ชีวิตฮันซาว่าต่อจากนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งพบว่ามันช่างเป็นชีวิตที่ดูจะสิ้นหวัง ฮันซาว่าต้องย้ายมาอยู่บริษัทหลักทรัพย์โตเกียวเซ็นทรัล ที่เล็กกว่าธนาคารโตเกียวจูโอ แถมมีสถานะเป็นบริษัทลูกด้วย ถ้าบริษัทแม่ต้องการอะไรก็ต้องยอมแต่โดยดี
และถึงแม้ว่าฮันซาว่าจะยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย แต่หัวหน้าฝ่ายที่บริษัทหลักทรัพย์แห่งนี้กับธนาคารที่ฮันซาว่าเพิ่งเดินออกมานั่นช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เป็นตำแหน่งหัวหน้าที่มีอำนาจเพียงน้อยนิด แถมเวลาจะทำอะไรก็จะถูกคนจากธนาคารคอยจับตามอง ต้องคอยระแวดระวังว่าเมื่อไหร่จะโดนเล่นงานอีก เพราะมีหลายคนหวังจะโค่นให้ฮันซาว่าหลุดออกจากระบบของธนาคาร จนไม่มีที่ยืนในวงการนายธนาคารอีกต่อไป!
แต่อย่างน้อยเขาก็ยังหลงเหลือความโชคดีตรงที่มีลูกน้องที่จงรักภักดี และเพื่อนสนิทอย่าง “โทมาริ” (รับบทโดย มิซึมิโร่ โออิคาว่า) ที่คอยให้ความช่วยเหลือและยืนเคียงข้างอยู่เสมอ
2. คู่แข่งที่ดุเดือดขึ้น
สำหรับภาคที่ 1 ศัตรูเบอร์ 1 ของฮันซาว่าก็คือ “โอวาดะ” (รับบทโดย เทะรุยูกิ คากาว่า) ใช่ไหมคะ (แต่ภาคนี้ก็ยังอยู่อย่างแข็งแกร่งเหมือนเดิมนะ ไม่มีอะไรมากั้นได้เลยจริงๆ)
แต่ในภาคนี้เข้มข้นขึ้น เมื่อมีอีกหนึ่งศัตรูตัวฉกาจที่ตอนนี้ได้ข้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งใหญ่โต และมีความเคียดแค้นฮันซาว่ามาตังแต่ภาคที่แรก ภาคนี้เลยจัดหนักจัดเต็ม เขาคนนั้นก็คือ “ไทจิ อิซายาม่า” (รับบทโดย เอ็นโนะสุเกะ อิจิคาว่า) แค่เขาก็ว่าร้ายแล้ว ยังจะเสริมพลังพรรคพวกมารุมฮันซาว่าในชนิดที่ว่าขยับตัวไปไม่ได้เลยทีเดียว
และล่าสุดก็จัดหนัก ด้วยการใช้อำนานจแทรกแซงขโมยงานที่ฮันซาว่าและทีมกำลังดีลอยู่ไปซึ่งๆ หน้า และไหนฮันซาว่าจะต้องต่อสู้ในฐานะคนจากบริษัทลูก (บริษัทหลักทรัพย์โตเกียวเซ็นทรัล) กับคนจากบริษัทแม่ (ธนาคารโตเกียวจูโอ) ที่เหมือนจะอยู่ร่มเดียวกัน แต่กลับไม่ถูกคอกันเลย
3. แทรกความรู้เรื่องธนาคารและหุ้นเข้ามา
แน่นอนว่าซีรีส์เรื่องนี้ก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเงิน หรือเรื่องราวชีวิตของนายธนาคารเข้ามาเสริมแทรกตลอดเรื่อง สำหรับภาคนี้ก็ยังคงจัดเต็มเหมือนเดิม มีเพิ่มเติมคือความรู้เรื่องหุ้น และชีวิตของคนที่ทำงานบริษัทหลักทรัพย์ว่าในแต่ละวันต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง และตรงจุดนี้นี่แหละค่ะที่ซีรีส์ทำให้เข้าใจง่ายและสนุกขึ้นด้วยการเอาไปผูกกับเรื่อง
เช่น บริษัท “สไปรัล” กำลังถูกอีกบริษัทกำลังจะเข้าซื้อกิจการ โดยเดินเกมเข้าซื้อหุ้นมากถึง 30% นอกเวลาซื้อหุ้น เลยทำให้ซื้อหุ้นจำนวนมากขนาดนี้ได้ ถ้าสไปรัลไม่ทำอะไรสักอย่าง จะกลายเป็นว่าต้องเสียบริษัทนี้ให้กับคนอื่นไปเลยทันที
(ซึ่งตอนแรกทีมของฮันซาว่าได้รับมอบหมายให้เป็นที่ปรึกษาเข้าไปซื้อกิจการของสไปรัลนี่แหละค่ะ ซึ่งตอนนั้นฮันซาว่าก็สองจิตสองใจว่าจะเข้าซื้อดีไหม เพราะเงินมันจำนวนมหาศาล บวกกับได้กลิ่นถึงความไม่ถูกต้องเท่าไหร่ ดีไม่ดีฮันซาว่าอาจจะแนะนำให้ไม่ซื้ออะไรเลย แต่กลายเป็นว่าลูกค้าหรือบริษัทเด็นโนที่ว่าจ้างกลับพลิกเกม ไปเข้าฝ่ายธนาคารโตเกียวจูโอที่ปล้นลูกค้ารายนี้มาอีกที ทำให้ฮันซาว่าพลาดโอกาสงานนี้ เลยสู้กลับด้วยการเป็นที่ปรึกษาให้สไปรัล )
วิธีการแก้ไขก็คือสไปรัลต้องซื้อหุ้นเพิ่มเข้าไปอีก เพื่อไม่ให้หุ้นส่วนจำนวนเกินกว่าครึ่งไปอยู่กับอีกฝั่งหนึ่ง แต่การจะซื้อหุ้นเพิ่มได้ต้องหาพันธมิตรหรือคนที่ขี่ม้าขาวมาช่วยลงทุน และเหมือนโชคจะเข้าข้าง เพราะมีคนคนนั้นอยู่จริง แต่ความจริงไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด แผนที่ว่ามานั้นก็ดันมาจากแผนทำลายล้างฮันซาว่าจากคนในธนาคารเช่นกัน ฮันซาว่าเลยต้องสืบหาความจริง และใช้ความรู้เรื่องหุ้นเข้ามากอบกู้สถานการณ์ให้ได้!
4. ข้อคิดการทำงาน
หากคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งแล้วเริ่มรู้สึกหมดไฟ อยากให้ลองเปิดใจดูซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ แม้จะมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเงินแบบหนักๆ แต่พล็อตหลักเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงชีวิตของมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าจะทำงานที่ธนาคารใหญ่ หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่เล็กกว่า แต่ละคนก็ล้วนแต่เป็นมนุษย์เงินเดือนกันทั้งนั้น
พอเปิดฉากมาเราจะสัมผัสได้ว่า ในรอบนี้ฮันซาว่าแทบจะไม่มีอาวุธอะไรไปต่อกรคนอื่นได้เลย ทั้งตำแหน่ง หน้าที่การงาน บริษัทที่ทำ ที่เรียกได้ว่าโดนกดให้แย่ลงกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้นฮันซาว่าก็เลือกที่จะทำงานต่ออย่างเข้าใจ และสนับสนุนลูกน้องของตัวเองให้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าเขาจะโดยป้ายความผิดมามากแค่ไหน แต่ฮันซาว่าเป็นตัวอย่างของหัวหน้าคนหนึ่งที่จะไม่ทำเช่นนี้กับลูกน้องตัวเองอย่างแน่นอน และทำงานด้วยความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจกับหน้าที่ของตัวเอง ไม่สำคัญว่าทำงานอยู่ที่ไหน แต่อยู่ที่ว่าทำอย่างไรถึงจะทำงานออกมาได้ดีที่สุด พร้อมช่วยเหลือลูกค้าและองค์กรให้เติบโตขึ้นได้
“งานของพวกเราคือเอาใจช่วยผู้คนกับบริษัท และช่วยเหลือให้พวกเขาได้เติบโต งานหลักทรัพย์ ไม่สิ…ไม่ว่างานไหนๆ เป้าหมายก็ไม่ต่างกันเลย… สิ่งสำคัญไม่ใช่ทำงานที่ไหน แต่ทำงานอย่างไรต่างหาก”
5. เอาคืนสองเท่า สนุกสองเท่า
ถ้าพูดถึงซีรีส์เรื่อง Hanzawa Naoki หลายคนคงนนึกถึงวลีเด็ด “ถ้าใครทำร้ายฉันล่ะก็ จะเอาคืนเป็นสองเท่า” ใช่ไหมคะ แล้วภาคนี้จะเป็นยังไง ฮันซาว่ายังคงคติประจำใจเดิมหรือเปล่า และก็ต้องพบว่า เขาไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆ ค่ะ ตอนแรกเหมือนนนฮันซาว่าจะเบาๆ มือลงแล้ว แต่จากการถูกกลั่นแกล้งของคนธนาคาร ทำให้ฮันซาว่าอยู่นิ่งไม่ได้อีกต่อไป
และต้องขอบอกว่านอกจากฮันซาว่าจะเอาคืนเป็นสองเท่าแล้ว ยังมอบความสนุก สะใจได้อย่างมันส์คูณสองไปเลย แม้แรกๆ จะเดินเรื่องมาอย่างนิ่งๆ ในฮันซาว่าคราบสงบเสงี่ยมไม่
กระเหี้ยนกระหือรือกับเบื้องบน แต่สิ่งที่ธนาคารโตเกียวจูโอขโมยลูกค้าตัดหน้าเขานั้นยอมไม่ได้ แถมลูกค้าคนสำคัญของเขากำลังจะถูกหลอกจนอาจจะสูญเสียบริษัทไป ฮันซาว่าเลยทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือลูกค้าคนสำคัญที่เขามักยึดปฏิบัติมาตลอดการทำงาน แต่วิธีการไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด สถานการณ์ของเขาในตอนนี้เหมือนสิงโตที่บาดเจ็บอยู่ท่ามกลางฝูงไฮยีน่า แต่ขอบอกว่า ในวันหนึ่งที่สิงโตที่รักษาตัวจนหายดี จะกลับมาผงาดอย่างแข็งแกร่งที่สุดในที่แห่งนี้!
“ถ้าผมโดนเล่นงาน ผมก็จะทำพวกคุณคืนเป็นสองเท่า!”
สำหรับ Hanzawa Naoki Season 2 ต้องขอบอกว่าไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ค่ะ แม้จะต้องรอคอยมายาวนานกว่า 7 ปี แถมมาเจอพิษ COVID-19 อีก แต่ต้องขอบอกว่าสมกับการรอคอย ซีรีส์ญี่ปุ่นที่ยังคงคุณภาพ และความเข้มข้นของเนื้อเรื่องที่ดูแล้วแทบจะไม่อยากลุกหนีไปจากหน้าจอเลยจริงๆ ค่ะ
ป.ล. แอบมีซับไทยแล้ว ลองขุดๆ ดูหาเจอไม่ยากค่า เพราะก็มีคำใบ้ซ่อนอยู่ในบทความนี้แล้ว ^^
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– 5 อันดับซีรีส์ญี่ปุ่นเรตติ้งสูงสุดในช่วง COVID-19
– รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น Queen ทีมทนายความรับจัดการข่าวฉาว
– 5 ซีรีส์ญี่ปุ่นลึกลับ ระทึกขวัญ แบบไม่นองเลือด
– Review ซีรีส์ญี่ปุ่น Kyojo ครูโหดกับนักเรียนที่หายไป
– รีวิว TRICK ซีรีส์สืบสวนส่องผี พลังมายากลสู้พลังเหนือธรรมชาติ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
– ละครญี่ปุ่นเรื่อง Hanzawa Naoki Season 2
– http://asianwiki.com
– https://boards.4channel.org
#Hanzawa Naoki ภาค 2