รีวิว I’m Your Destiny พรหมลิขิตหรือแค่บังเอิญ
คุณเชื่อในพรหมลิขิตหรือเปล่า? การที่เราได้พบเจอใครสักคน หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ได้ถูกลิขิตขึ้นมาแล้ว ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ บางอย่างก็น่าเหลือเชื่อ บางอย่างก็อดขึ้นไม่ได้ว่า หรือเพราะพรหมลิขิตจะมีจริง
เหมือนกับซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ I’m Your Destiny เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่วันดีคืนดี มีบุคคลปริศนาที่อ้างว่าเป็นเทพเจ้ามาบอกว่า ผู้หญิงคนนี้คือเนื้อคู่ของเขา ว่าแต่เรื่องราวจะเป็นอย่างไร มาอ่านเรื่องราวพรหมลิขิตผ่านซีรีส์เรื่องนี้กันได้เลยค่ะ
I’m Your Destiny วุ่นรักพรหมลิขิต
“มาโกะโตะ มาซากิ” (รับบทโดย คาซุยะ คาเมะนาชิ) ชายหนุ่มที่โชคเรื่องผู้หญิงไม่ค่อยดี ไม่ว่าจะคบกับใครต่างก็เจอเรื่องราวเจ็บปวดมีอันต้องเลิกราไปหลายต่อหลายรอบ แฟนล่าสุดก็เป็น 18 มงกุฎ ที่สวมรอยมาหลอกเขา
ในขณะเดียวกัน “ฮารุโกะ โคเง็ตสึ” (รับบทโดย ฟูมิโนะ คิมูระ) หญิงสาวที่ผิดหวังกับความรักมาต่อหลายครั้ง แฟนที่คบอยู่ที่เททั้งหัวใจให้เขา ก็กลับปิดซ่อนเรื่องที่แต่งงานมีภรรยาแล้ว เลยทำให้เธอกลัวที่จะมีรักครั้งใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไปขอพรว่า ปีนี้ขอให้เจอรักดีๆ และได้แต่งงานกับเขาสักทีเถอะ
และแล้วอยู่มาวันหนึ่งมีชายปริศนาคนหนึ่งมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ามาโกะโตะ อ้างว่าตัวเองเป็น “เทพเจ้า” (รับบทโดย โทโมฮิสะ ยามาชิตะ) พร้อมบอกว่า ฮารุโกะคือเนื้อคู่ของเขา พรหมลิขิตได้ลิขิตเอาไว้แล้ว และเขาก็ต้องรีบแต่งงานกับฮารุโกะให้ได้ เพราะลูกของทั้งคู่จะเป็นผู้ที่กอบกู้โลกในอนาคตอีก 30 ปีได้ ถ้าไม่รีบแต่งภายในปีนี้ โลกอาจเกิดหายนะ!
มาโกะโตะแทบไม่อยากจะเชื่อเรื่องราวพวกนั้น รวมถึงเรื่องพรหมลิขิตอะไรที่ว่านั่น แต่กลับมีเรื่องราวต่างๆ ตรงตามที่เทพเจ้าบอกจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งที่นั่งทำงาน แม้จะคนละห้อง แต่ก็เป็นตำแหน่งที่ตรงกัน เพียงแค่มีกำแพงกั้นอยู่ หรือจะเป็นเรื่องที่เคยเล่นก่อกองสร้างด้วยกันสมัยเด็กๆ ตอนสอบก็เคยให้ยืมดินสอ แถมยังเคยเรียนม.ปลายที่เดียวกันอีกต่างหาก ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่มาโกโตะไม่เคยสังเกตมาก่อน
เขาเลยเริ่มปฏิบัติการพิชิตใจสาวคนนี้ ด้วยการเข้าไปบอกเธอว่า “ผมคือเนื้อคู่ของคุณ!” แต่สิ่งนี้กลับให้ว่าที่เนื้อคู่อย่างฮารุโกะ พยายามวิ่งหนีเขาออกไปเรื่อยๆ แล้วความรักครั้งนี้จะเป็นอย่างไร การมาพบเจอกันเป็นพรหมลิขิต หรือแค่เรื่องบังเอิญกันแน่?
ความน่าสนใจของเรื่องนี้
1. การโคจรกลับมาพบกันระหว่างคาเมะและยามะพีในรอบ 10 กว่าปี
หากใครได้ติดตามข่าวคราวของซีรีส์เรื่องนี้ ก็น่าจะเคยได้ยินมาแล้วว่า ซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่พาคาเมะและยามะพีกลับมาเล่นละครด้วยกันอีกครั้ง และออกซิงเกิ้ลคู่กัน หลังจากเคยร่วมงานด้วยกันในซีรีส์ชื่อดังอย่างเรื่อง Nobuta wo Produce ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จนเป็นตำนานของคอซีรีส์ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
สำหรับเรื่องนี้ทั้งคู่ได้กลับมาเล่นละครด้วยกันอีกครั้ง โดยคาเมะรับบทเป็นมาโกะโตะชายหนุ่มอาภัพรัก
หรือนี่จะคือ…
ส่วนยามะพีรับบทเป็นเทพเจ้า (ที่ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า) ที่คอยมาเป็น Mentor ช่วยเหลือเรื่องความรัก พอดูเรื่องนี้ก็ทำให้อดคิดถึงสมัย Nobuta wo Produce ไม่ได้ เพราะคาแร็กเตอร์ของยามะพีมีความกวนโอ๊ยนิดๆ เหมือน “อากิระ” และพอเข้าฉากด้วยกัน มีความเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ถือว่าเป็นสีสันของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ แถมตอนจบมีโมเม้นท์ซึ้งๆ ระหว่างมิตรภาพทั้งคู่อีกด้วย
2. โรแมนติกผสมคอมเมดี้นิดๆ อบอุ่นใจชวนอารมณ์ดี
จุดเด่นของเรื่องนี้ก็คือ การเล่าเรื่องราวความรักที่โรแมนติดนิดๆ ผสมกับความคอมเมดี้ ที่เกิดขึ้นระหว่างเทพเจ้า (กำมะลอ?) และมาโกโตะ ชายหนุ่มอาภัพรัก ที่เล่นเอามาโกะโตะหัวจะปวดแทบทุกวัน เมื่อต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับเทพเจ้าที่คอยกวนประสาทเขาเสมอ ทันทีที่มีเสียงออกห้องมาโกะโตะดัง เป็นสัญญาณที่เตรียมฮาต่อจากนี้ได้เลย
ค่อนข้างอบอุ่น…
3. แง่มุมความรักของวัยผู้ใหญ่
ถ้าพูดถึงซีรีส์ความรัก เรามักจะนึกถึงความรักของวัยหนุ่มสาว แต่สำหรับเรื่องนี้เนื้อหาดูกุ๊กกิ๊กก็จริง แต่ไม่ได้หวานแหววมากเกินไป และเป็นเรื่องที่เล่าถึงความรักวัยผู้ใหญ่ ที่ใกล้เข้าสู่วัยเลข 3 สะท้อนให้เห็นการมีคู่หรือการแต่งงานที่เริ่มช้าลง รวมถึงสะท้อนมุมมองความรักในวัยผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งเกิดความรู้สึกดีๆ ในหัวใจ แต่ก็มีอะไรหลายอย่าง ที่เราต้องครุ่นคิดก่อนการตัดสินใจครั้งสำคัญ
4. พรหมลิขิตที่ต้องใช้ความพยายาม
Theme หลักของเรื่องนี้เลยก็คือ เรื่องพรหมลิขิต พอได้ยินคำนี้ ก็ดูเหมือนว่า ไม่เห็นต้องลุ้นกับอะไรเลย ก็พรหมลิขิตกำหนดไว้หมดแล้ว แถมมีเทพเจ้าช่วยอีก แต่ความน่าสนใจของเนื้อเรื่องก็คือ ทำให้พรหมลิขิตเป็นเรื่องที่ต้องพยายามมาก ต่อให้มาโกะโตะจะรู้ว่า ฮารุโกะคือเนื้อคู่ แต่ท่าทีของเธอดูเหมือนไม่ได้มีใจให้สักนิด ถ้าอยากได้รักมาครอบครองก็ต้องใส่ความพยายามเข้าไปมากๆ ต่อให้มีเทพเจ้าแนะนำ ท่านก็ทำได้แค่แนะนำเรื่องที่พูดได้
แต่ทุกอย่างจะเป็นจริงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ “เราลิขิตเอง” ทำให้เราเห็นว่า ความพยายามเป็นสิ่งสำคัญ แม้แต่ความรักที่ถูกลิขิตไว้แล้ว การที่เรารักใครสักคน ไม่ใช่แค่ชะตาฟ้าลิขิต แต่เกิดจากความรู้สึกดีๆ ที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจ ซึ่งจะรู้ซึ้งถึงความรู้สึกนี้ได้ เราก็ต้องเป็นคนสร้างและลงไปในห้วงแห่งความรักนี้ด้วยตัวเราเอง
พรหมลิขิตมีจริงหรือไม่ ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ แต่เรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้ก็ทำให้เราได้เห็นถึงเรื่องราวของพรหมลิขิตของชายหนึ่งคู่หนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้น การที่เรารักใครสักคนไม่ได้หมายความว่าเราไม่ต้องพยายามกับอะไรเลย บางทีความพยายาม ความตั้งใจ ความทุ่มเท และรักใครสักคนด้วยใจจริงแบบเหนือพรหมลิขิต ก็ทำให้อีกฝ่ายตกหลุมรักอย่างไม่รู้ตัว
“พรหมลิขิตน่าจะ…เป็นของขวัญล้ำค่าที่มาเยือนเฉพาะ
ผู้ที่ไม่ยอมแพ้และยังเชื่อมั่นต่อ”
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องแนะนำ :
– ชีวิตวัยผู้ใหญ่ไม่ง่าย รวมซีรีส์ญี่ปุ่นวัยกลางคน ที่ชีวิตน่าติดตาม
– รีวิว Tokyo Tararebe Girl สาววัย 30 ปี จะสละโสดได้ไหม ถ้า…
– Love is Blind: เราจะหลงรักคนที่ไม่เคยเห็นหน้าได้จริงเหรอ?
– กลับมาอีกครั้ง 99.9 Keiji Senmon Bengoshi ทนายผู้ค้นหาความจริง 0.1% !!!
– รีวิว Life’s Punchline ตลกเปิดชีวิต ชีวิตคณะตลก ที่ไม่ตลก
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก:
– ซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง I’m Your Destiny ทาง Netflix
– https://asianwiki.com/I%27m_Your_Destiny
#รีวิว I’m Your Destiny พรหมลิขิตหรือแค่บังเอิญ