“Honnouji Hotel” ละครที่ตัวเอกข้ามเวลาไปยังยุคเซนโกคุ และพบกับโอดะ โนบุนางะหนึ่งวันก่อนเกิดการล้อมวัดฮอนโน เหตุการณ์ที่เขาเสียชีวิตจะว่าไปเรื่องราวก็คล้ายๆ กับแม่การะเกด ในบุพเพสันนิวาสของไทยนี่แหละค่ะ ที่นางเอกย้อนเวลาได้ แต่ก็มีความแตกต่างที่รายละเอียด
“ในวันที่ 2 มิถุนายน 1582 ณ วัดฮอนโนในเกียวโต อาเคจิ มัตสึฮิเดะก่อกบฏ ปิดฉาก โอดะ โนบุนากะจากหน้าประวัติศาสตร์ ยามที่เขากำลังรวบรวมประเทศเป็นปึกแผ่น เกิดอะไรขึ้นกับศพของโนบุนากะ. . . ฮิเดโยชิ ผู้ชำระแค้นมัตสึฮิเดะกลับจากแคว้นชูโกคุอย่างรวดเร็วได้อย่างไร การล้อมวัดฮอนโนมากไปด้วยปริศนา”
และถ้าคุณมีโอกาสได้ย้อนเวลาไปพบท่านโนบุนากะ คุณจะไปบอกอะไรกับท่าน จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์หรือไม่ หรือค้นหาคำตอบที่ค้างคาที่คนในยุคปัจจุบันไม่สามารถตอบได้…
พอได้ดูละครบุพเพสันนิวาส ก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่าในละครหรือภาพยนตร์ญี่ปุ่นก็มีหลายเรื่องที่มีพล็อตย้อนอดีตข้ามเวลาไปค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือเรื่อง “Honnouji Hotel” ที่ตัวละครเอกข้ามเวลาไปยังยุคเซนโกคุ และพบกับโอดะ โนบุนางะหนึ่งวันก่อนเกิดการล้อมวัดฮอนโน เหตุการณ์ที่เขาเสียชีวิตจะว่าไปเรื่องราวก็คล้ายๆ กับแม่การะเกด ในบุพเพสันนิวาสของไทยนี่แหละค่ะ ที่นางเอกย้อนเวลาได้ แต่ก็มีความแตกต่างที่รายละเอียด
เราลองมาดูกันดีกว่าว่า ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ จะพาเราข้ามเวลาไปเรียนรู้กับอะไร
ลิฟต์ข้ามเวลาลึกลับในโรงแรมฮอนโนจิ
“ฉันมาจากโลกอนาคตหลังจากนี้ 400 ปีค่ะ” คุราโมโตะ มายูโกะ (อายาเสะ ฮารุกะ) หญิงสาวคนหนึ่งได้ข้ามเวลาไปยังยุคเซนโกคุ และพบกับโอดะ โนบุนากะ (รับบทโดย ซึซึมิ ชินอิจิ ) บุคคลที่มีความสำคัญท่านหนึ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อคุราโมโตะได้เดินทางไปเกียวโตเพื่อไปแนะนำตัวให้กับครอบครัวว่าที่สามีของตัวเอง แต่ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เพราะเธอจองโรงแรมผิดเดือน ทำให้เธอต้องไปหาโรงแรมใหม่ที่มีห้องว่าง นั่นก็คือ “โรงแรมฮอนโนจิ” โรงแรมขนาดใหญ่ ได้บรรยากาศลึกลับพร้อมกับความสวยงาม แม้จะชื่อว่า “ฮอนโนจิ” แต่ก็ไม่ได้ตั้งทับพื้นที่เก่าของวัดฮอนโนหรอกนะ วัดฮอนโนจริงๆ ห่างไปจากตรงนี้อีก แต่ที่นี่ก็กลับมีเรื่องราวลึกลับ
ในขณะที่คุราโมโตะขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพัก พอลิฟต์เปิดออกก็พบว่าตัวเองโผล่ไปยังอีกสถานที่หนึ่ง และอีกยุคสมัยนั่นก็คือยุคเซนโกคุ และที่น่าประหลาดใจเข้าไปอีกก็คือ เธอได้พบกับโอดะ โนบุนางะด้วย! ส่วนวันเวลาที่เธอย้อนกลับไปก็คือ หนึ่งวันก่อนเกิดการล้อมวัดฮอนโน เหตุการณ์ที่โนบุนากะปลิดชีพตัวเอง!
ตัวตนของ “คุราโมโตะ มายูโกะ” นางเอกของเรื่อง
จะว่าไปตัวละครคุราโมโตะแทบจะแตกต่างจากแม่หญิงการะเกดของพวกเราเลยค่ะ แต่ทั้งสองมีจุดร่วมเหมือนกันคือ ได้เดินทางย้อนเวลามายังอดีต แต่ในเรื่องตัวตน เรื่องราวชีวิตที่ต่างกัน อย่างแรกเลยคือ คุราโมโตะสามารถย้อนเวลากลับไปได้ทั้งๆ ที่ในโลกปัจจุบันเธอเองก็ยังมีชีวิตอยู่ ย้อนไปในร่างของตัวเอง ก็เลยทำให้ช่วงที่เธอย้อนไปอดีต ในโลกปัจจุบันตัวเธอเองก็จะหายไปด้วย (แต่ก็สามารถกลับมาได้ในภายหลัง ก็เลยไม่มีใครสงสัยว่าหายไปไหน)
คุราโมโตะไม่ได้เรียนด้านประวัติศาสตร์ และแทบจะไม่มีความสนใจในเรื่องนี้ด้วยซ้ำ แต่ก็มีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ดังๆ อย่างเรื่องราวของท่านโนบุนากะอยู่บ้าง นอกจากนี้เธอก็เป็นคนโก๊ะ เปิ่นๆ นิดๆ เห็นได้จากการจองโรงแรมผิดไปเป็นเดือน ในขณะเดียวกันก็เป็นหญิงสาวที่เรียบร้อย ไม่ค่อยกล้ามีปากมีเสียงกับใคร และก็ยังค้นหาความฝันในชีวิตตัวเองไม่เจอ แต่แล้ว…เมื่อเธอมีโอกาสได้ข้ามเวลาด้วยลิฟต์ตัวหนึ่ง ทำให้เธอค่อยๆ ค้นหาเป้าหมาย และสิ่งที่เธออยากทำในชีวิตแล้วว่า
“ฉันต้องไปเตือนโนบุนางะซังเกี่ยวกับการล้อมวัดฮอนโน” และมีความตั้งใจที่จะเป็นครูสอนความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ให้กับเด็กรุ่นใหม่
ภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์ที่ติดตามจนจบแม้ไม่มีเรื่องรัก
ความน่าสนใจของเรื่องนี้ที่ค่อนข้างโดดเด่นก็คือ เป็นเรื่องที่ไม่มีฉากรักกุ๊กกิ๊กมาให้ฟิน จิกหมอนค่ะ แต่เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แบบเพียวๆ ผสมกับพล็อตการข้ามเวลาที่ชวนให้น่าติดตาม แม้จะเน้นหนักไปทางเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าน่าเบื่อ หรือเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ แต่ดูแล้วกลับทำให้ซาบซึ้งใจไปกับความรักชาติของคนในอดีต
พล็อตย้อนเวลา ที่ข้ามไปข้ามมาได้
ภาพยนตร์เรื่องนี้นี้ไม่ใช่แนวที่ว่าใครต้องตายจากกัน หรือต้องเข้าไปอยู่ในอดีตตลอดกาล แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ นางเอกจะสามารถข้ามไปข้ามมาได้ค่ะ พอข้ามกลับมายังปัจจุบัน เธอก็เล่าเรื่องข้ามเวลาให้เจ้าของโรงแรมฟัง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ แถมคุราโมโตะไม่ได้ข้ามไปยังอดีตแค่ครั้งเดียว ในหนึ่งวัน เธอสามารถข้ามไปยังยุคเซนโกคุหลายครั้ง และอยู่ดีๆ ก็มาโผล่กลับอยู่ในลิฟต์กลางโรมแรมอย่างหาเหตุผลไม่ได้ ภาพยนตร์ก็จะใบ้ปริศนาไปตลอดเรื่องค่ะว่า เพราะอะไรที่ทำให้คุราโมโตะข้ามเวลาไปมาได้แบบนี้
เพียงหนึ่งวันในการข้ามเวลา ก็รับรู้ความรักชาติจากคนยุคก่อนอย่างลึกซึ้ง
เวลาที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้นค่ะ นั่นก็คือการย้อนไปวันที่ มิถุนายน 1582 ก่อนที่จะมีการก่อกบฏล้อมวัดฮอนโนเกิดขึ้น แม้จะเป็นเพียงแค่ 1 วัน แต่ก็มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นกับคุราโมโตะจนเธอยากที่จะลืมเลือน จากหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี อะไรคือเป้าหมายในชีวิตเธอ เธอกลับได้พบคนที่มีเป้าหมายในชีวิตอย่างแรงกล้าอย่างโนบุนากะ ที่ต้องการจะรวมแผ่นดินญี่ปุ่นเป็นปึกแผ่น
คุณเป็นคนทำสิ่งที่คนธรรมดาไม่คิดฝันให้สำเร็จ
ตามประวัติศาสตร์แล้วท่านโนบุนากะค่อนข้างเป็นคนที่ดุ เข้มงวด ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่หญิงสาวจากไหนไม่รู้ไปโผล่ขึ้นมาในกลางวงเหล่าทหาร และยืนพูดต่อหน้าพระพักตร์ได้ คุราโมโตะก็เกือบถูกจับไปกุดหัวเหมือนกัน แต่เพราะเหตุอะไรดลใจก็ไม่ทราบ ทำให้ท่านเปลี่ยนใจ และลองพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุราโมโตะ จากตรงนี้นี่เอง ทำให้คุราโมโตะสัมผัสได้ว่า แม้ท่านจะเป็นคนที่ดุดัน แต่เป็นคนที่มีจิตใจดีที่อยากจะสร้างชาติญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นปึกแผ่นจริงๆ และเฝ้ารอคอยวันแห่งสันติสุข
คุราโมโตะ: งานใหญ่อย่างรวบรวมประเทศเป็นปึกแผ่น ไม่ใช่เรื่องที่ใครทำก็ได้นะคะ
ท่านโนบุนากะ: ไม่ใชว่าทำไม่ได้ แค่ไม่มีใครพยายามจะทำ
พอได้พูดคุยกัน ก็ทำให้คุราโมโตะรู้สึกประทับใจในตัวท่านโนบุนากะมาก จากหญิงสาวที่ไม่เคยสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์เลย แต่ ณ เวลานี้ เธอมีความปรารถนาอยากให้โนบุนากะรวบรวมประเทศได้ แต่ก็มีสิ่งที่กวนใจเธออยู่ก็คือ ตามประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่าจะมีการก่อกบฏขึ้น แล้วโอดะ โนบุนากะ และโมริ รันมารุ ผู้ติดตามคนสนิท ได้ปลิดชีพตัวเอง ท่ามกลางเพลิงไฟที่เผาไหม้วันฮอนโน
แต่ถึงอย่างนั้น ประวัติศาสตร์ก็ไม่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความแตกต่างขึ้นมาคือ การยกประเด็นขึ้นมาว่า เพราะเหตุใดท่านโนบุนากะถึงไม่ยอมหนี หรือสู้กับกลุ่มกบฏ “ท่านไม่คิดจะรวบรวมประเทศเองรึขอรับ”…
“ไม่สำคัญว่าใครทำ ความหวังของข้าคือมอบสันติสุขให้แผ่นดินนี้”
และบางทีภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะอยากให้คนดูฉุกคิดขึ้นมาอีกประเด็นก็ได้ว่า ในคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับโอดะ โนบุนากะกันแน่ ย้อนกลับไปที่ตอนต้นของภาพยนตร์ ที่ตั้งคำถามไว้มากมายว่า
“อาเคจิ มัตสึฮิเดะก่อกบฏ ปิดฉาก โอดะ โนบุนากะจากหน้าประวัติศาสตร์
ยามที่เขากำลังรวบรวมประเทศเป็นปึกแผ่น เกิดอะไรขึ้นกับศพของโนบุนากะ. . .
ฮิเดโยชิ ผู้ชำระแค้นมัตสึฮิเดะกลับจากแคว้นชูโกคุอย่างรวดเร็วได้อย่างไร
การล้อมวัดฮอนโนมากไปด้วยปริศนา”
ไม่ว่าความจริงแท้จะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ในยุคที่โอดะ โนบุนากะรวมแผ่นดินญี่ปุ่นเป็นปึกแผ่น และทำให้คนดูเกิดความรักชาติขึ้นมา
อย่างน้อยๆ ก็ทำให้รู้ว่า ความเจริญที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันผ่านการต่อสู้อย่างสุดพลัง พร้อมการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เพื่อหวังว่าจะให้คนในชาติพบกับความสันติในสักวัน
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Teiichi no Kuni เมื่อผมอยากจะเป็นนายกฯ
– ดาราหนุ่มญี่ปุ่นผู้มีเจ้าของแล้ว ประจำไตรมาศแรกปี 2018
– 5 ซีรีส์ญี่ปุ่น Live Action ทำแล้วปัง ดังไม่แพ้มังงะ
– Papa Idol เรื่องราวความรักต้องห้ามกับไอดอล
– 5 จุดจบตัวร้ายในละครญี่ปุ่น ที่ไม่ต้อง “ตาย” เสมอไป
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง #Honnouji Hotel