อีกหนึ่งความปวดใจของแฟนซีรีส์ญี่ปุ่นก็คือ ไม่ค่อยมีละครที่มีฉากฟินๆ ให้ได้จิ้นกันบ่อยๆ (เว้นเสียแต่จะเป็นละครรักจริงจัง) ละครบางเรื่องก็เครียดเกิ๊น แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมดูแล้วก็ติดงอมแงมจนเลิกดูไม่ได้
อีกหนึ่งความปวดใจของแฟนซีรีส์ละครญี่ปุ่นก็คือ ไม่ค่อยมีละครที่มีฉากฟินๆ ให้ได้จิ้นกันบ่อยๆ (เว้นเสียแต่จะเป็นละครรักจริงจัง) ละครบางเรื่องก็เครียดเกิ๊น แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมดูแล้วก็ติดงอมแงมจนเลิกดูไม่ได้
แต่ขอบอกว่าบางเรื่องแม้จะมีฉากเซอร์วิสน้อย แต่ก็รู้สึกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก วันนี้เลยขอรวบรวมละครญี่ปุ่นที่ฉากจิ้นไม่เยอะ แต่ดูแล้วก็ฟินจนจิกหมอนมาฝากกันค่ะ
1. CHANGE
แม้จะเป็นละครแนวการเมือง แต่เชื่อว่าคนดูหลายคนก็ลุ้นๆ ฉากฟินๆ จากพระ-นางอยู่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่า คนดูต้องมโนกันไปเองบ่อยๆ เพราะในเรื่องนี้แทบจะไม่มีฉากเซอร์วิสเลย เป็นละครที่เน้นเล่าเรื่องชีวิตของหนุ่มวัย 35 ปี ที่ก้าวจากอาชีพครูมาเป็นนายกรัฐมนตรี ในเรื่องก็จะเน้นเรื่องการเมือง ชีวิตของพระเอกที่ต้องฝ่าฟัน ต่อสู้กับอุปสรรคในโลกการเมือง เพื่อสร้างประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป แต่ท่ามกลางความเครียดของเนื้อเรื่อง ก็จะมีซีนกุ๊กกิ๊กกับคุณเลขาสุดสวย ผู้หญิงที่คอยสนับสนุนและอยู่เคียงข้างเขามาตลอด แต่ฝ่ายพระเอกของเราก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลย มารู้ตัวอีกที ทั้งคู่ก็สวมแหวนหมั้นเรียบร้อยในตอนจบ ไปรักกันตอนไหนเนี่ยยย
2. Hotaru no Hikari
เรื่องนี้ถือว่าเป็นละครรักในตำนานอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ เรื่องราวความรักของสาวปลาแห้ง โสดสนิท ไม่ยุ่งเกี่ยวกับความรัก ที่ต๊องๆ บ๊องๆ นิดๆ กับบุโจว คุณหัวหน้าแผนกสุดเนี๊ยบ ที่บังเอิญมาอยู่บ้านหลังเดียวกัน แม้ทั้งคู่จะไม่ใช่สเป็คของกันและกัน แต่การใช้ชีวิตร่วมกัน ทำให้ความรู้สึกดีๆ ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาจนกลายเป็นความรัก เรื่องนี้แม้จะเป็นแนวรักคอมเมดี้ แต่จะบอกว่าฉากเซอร์วิสรักๆ ไม่ได้มีเยอะอะไรขนาดนั้นค่ะ เอาอย่างงี้ดีกว่า ขนาดอยู่บ้านเดียวกัน บุโจวพระเอกของเรื่องก็ไม่เคยล่วงเกิน จูบสักครั้งก็ไม่เคย กว่าจะรู้ตัวว่ารัก เรื่องก็ดำเนินเรื่องไปเกือบจบ แต่มันก็มีความน่ารักตรงที่ว่าบุโจวค่อยๆ เพิ่มความรู้สึก หรือค่อยๆ แสดงออกว่ารักเนี่ยแหละ แม้จะค่อยๆ เผย แต่ก็ดูน่ารักดีค่ะ ถึงฉากเซอร์วิส (ที่น้อยนิด) ทีไร เป็นอันต้องเขิน!
3. Keizoku no SPEC
นี่คือละครสืบสวนสอบสวนในตำนาน เป็นเรื่องราวของหน่วยสืบสวนหน่วยหนึ่งที่มีหน้าที่สืบสวนคดีเหนือธรรมชาติ ที่ลงมือโดยกลุ่มคนที่มีพลังพิเศษ หรือกลุ่มคน SPEC โดนได้คู่หูมากฝีมือมาต่อกร อย่าง “โทมะ” (เอริกะ โทดะ) หญิงสาวที่มี IQ ถึง 201 และเซบุมิ (เรียว คาเซะ) นักสืบมากฝีมือ ทั้งคู่ใช้ความสามารถที่มีต่อสู้กับอาชญากรที่มีพลังเหนือธรรมชาติเหล่านั้น แม้จะเป็นละครแนวสืบสวน แต่แฟนๆ ก็แอบจิ้นคู่หูอย่างโทมะกับเซบุมิไม่น้อยเลยค่ะ แต่ให้ตายเถอะ ในเรื่องแทบจะไม่มีฉากเซอร์วิสอะไรเลย นอกจากฉากทะเลาะกัน หรือแสดงความรู้สึกดีๆ อย่างห่างๆ ห่วงๆ แม้จะไม่มีท่าทีที่ชัดเจน แต่คนดูก็รู้สึกได้เลยว่าคู่นี้ต้องมี Something อะไรแน่นอน
4. Nigeru wa Haji da ga Yaku ni Tatsu
นี่ก็เป็นละครรักที่มีฉากเซอร์วิสไม่มากเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็มีในระดับที่พอดีๆ จนคนดูฟิน เขินไปตามๆ กันเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของสาว “มิกุริ” (ยูอิ อารากากิ) หญิงสาววัย 25 ปี มีดีกรีปริญญาโท แต่ยังไม่มีแฟน และไม่มีงานประจำทำ แต่เธอชื่นชอบและมีความสามารถในการทำงานบ้านมาก พ่อของเธอเลยแนะนำงานให้เธอไปเป็นแม่บ้านให้กับ “ฮิรามาสะ” (เกน โฮชิโนะ) หนุ่มโสด วัย 36 ปี ที่รักความสะอาดเป็นที่สุด แต่ว่าวันหนึ่งครอบครัวของมิกุริได้ตัดสินใจจะย้ายบ้านไปต่างจังหวัด ทำให้มิกุริต้องลาออกจากงานที่รัก แต่เธอไม่อยากลาจากงานที่รักเลย ส่วนฮิรามาสะก็ชื่นชอบการทำงานของเธอ ทั้งคู่เลยลงเรือลำเดียวกัน ด้วยการแสร้งเป็นคู่รักปลอมๆ เพื่อที่มิกุริจะได้ไม่ต้องออกจากงาน แต่พออยู่กันไปเรื่อยๆ ความรักหลอกๆ ก็เริ่มกลายเป็นจริงขึ้นมา
เรื่องนี้ฉากเซอร์วิสก็จะไม่มากค่ะ แต่ก็มีนะคะ พอหอมปากหอมคอ เพราะพระเอกของเราเป็นคนที่เย็นชาหน่อยๆ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก ต้องให้ฝ่ายหญิงค่อยกระตุ้นอยู่เรื่อย ฉากเซอร์วิสน่ารักๆ ก็เช่น ตอนนี้ฮิรามาสะเผลอจูบมิกุริตอนไปเที่ยวแบบไม่รู้ตัว กับตอนที่นางเอกยื่นเงื่อนไขว่า ต้องกอดกันทุกวันอังคาร เพื่อให้ดูเป็นคู่รักมากขึ้น
5. Liar Game
มาที่เรื่องสุดท้ายกันค่ะ ละครอีกหนึ่งเรื่องที่แฟนละครตามจิ้นคู่พระ-นาง แต่ก็มีฉากรักๆ ให้ลุ้นน้อยเสียเลย Liar Game เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเกมๆ หนึ่งที่ถูกจัดขึ้นมาให้คนเข้ามาเล่น เรื่องราวก็เริ่มจาก “นาโอะ คันซากิ” (เอริกะ โทดะ) หญิงสาวผู้ใสซื่อ โกหกใครไม่เป็น แต่แล้ววันหนึ่งเธอถูกดึงเข้าไปพัวพันกับเกมอันน่าสะพรึงกลัว ที่ต้อง “โกหก” เท่านั้น จึงจะสามารถอยู่รอดได้ แต่ก็ “อากิยาม่า ชินอิจิ” (โชตะ มัตสึดะ) ชายหนุ่มยอดอัจฉริยะคนหนึ่งที่ยื่นมือเข้ามาช่วย โดยไม่ขออะไรตอบแทน แม้ว่าเหตุผลหลักของอากิยาม่าคือ นาโอะนั้นมีความคล้ายกับแม่ตัวเอง ที่โดนหลอก แล้วตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่ตอนหลังๆ คนดูก็เริ่มสัมผัสได้ว่า นี่ไม่ใช่แค่เหตุผลนั้นแน่ น่าจะเพราะสาเหตุอื่น ที่อากิยาม่าคอยช่วยเหลือนาโอะเสมอ แต่ในละคร “เกมโกหก” ก็ฟาดฟันกันดุเดือดมาก จนไม่ค่อยมีช่วงเวลาแห่งความสวีทออกมาให้เห็น หรือจะจบเรื่องแล้วก็ยังงงๆ ว่ารักกันหรือเปล่า ฉากเซอร์วิสที่แฟนๆ หลายคนประทับใจน่าจะเป็นตอนนี้แหละ เล่นซะใจเต้นรัววว
นี่อาจเป็นหนึ่งสิ่งที่คอซีรีส์ญี่ปุ่นต้องเผชิญก็ได้ค่ะ เวลาดูละครก็ไม่ค่อยมีฉากฟินๆ อะไรมากมายหรอก (นอกเสียจากว่าเป็นละครแนวความรักจริงๆ) แต่ถึงอย่างนั้น ละครก็มีจุดที่น่าติดตาม การที่ต้องคอยลุ้น และจินตนาการถึงความสัมพันธ์ของพระ-นางที่ไม่หวือหวา ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของละครญี่ปุ่นก็ว่าได้
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Ossan’s Love รักนี้ลุงขอ หนังรักชาย-ชายที่น่าเอ็นดู
– 5 ซีรีส์-หนังญี่ปุ่นวัยเรียน ที่สร้างกำลังใจในวันที่ต้องสอบเข้ามหา’ลัย
– รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น Black Pean อำนาจมืด คีมหมอ
– Tonight, at Romance Theater รักที่สัมผัสกันไม่ได้
– 5 นักสืบหญิงซีรีส์ญี่ปุ่นยอดอัจฉริยะ ไม่มีคดีไหนที่ไขไม่ได้
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
– https://le4theflea.wordpress.com
– http://ramenparados.com
– http://mydramatea.com
– https://www.cinematoday.jp
#5 ซีรีส์ญี่ปุ่นที่มีฉากเซอร์วิสรักน้อย แต่ฟินสุดๆ