วันนี้เราขอแนะนำซีรีส์ญี่ปุ่นเกี่ยวกับการทำงาน ที่ดูแล้วจะปลุกไฟในตัวคุณให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง!
ปัญหาใหญ่ของคนวัยทำงานที่มักจะเจอกันก็คือภาวะหมดไฟ เบื่องาน ไม่อยากจะไปทำงานแล้ว แต่จะลาออกเลยก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะไหนจะค่าใช้จ่ายเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ครอบครัวอีก ทางออกคือก็ต้องทำงานต่อไป แต่เราจะทำงานให้ได้ทุกวันอย่างไรในสภาวะหมดไฟแบบนี้?
วันนี้เราเลยขอแนะนำซีรีส์ญี่ปุ่นเกี่ยวกับการทำงาน ที่ดูแล้วจะปลุกไฟในตัวคุณให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง!
1. Haken no Hinkaku
สำหรับละครเรื่องนี้เรียกได้ได้ว่าเป็นละครญี่ปุ่นในตำนาน คอละครญี่ปุ่นหลายคนน่าจะเคยดูกันมาแล้ว เป็นเรื่องราวของ “โอมาเอะ ฮารุโกะ” สาว Haken หรือพนักงานสัญญาจ้าง หญิงสาวที่ไม่มีคำว่า “ทำงานล่วงเวลา” ในพจนานุกรมของเธอ ความสนุกที่จะมาจุดไฟในตัวเราทุกครั้งที่ดูก็คือ ความเทพของนางนี่แหละค่ะ ให้ทำงานอะไรก็ทำได้หมด และทำได้ดีด้วย ที่ประทับใจมากๆ ก็คือ นางเป็นคนที่ทำงาน Productive แบบสุดๆ สามารถจัดการทุกอย่างเสร็จได้ในเวลางาน พอเลิกงานก็กลับทันที และพอหมดสัญญาจ้างกับที่ทำงาน ก็จะให้เวลาตัวเองได้ท่องเที่ยว พักผ่อนจากงานค่ะ
แต่ว่าก่อนจะเก่งกาจแบบนี้ เธอก็เคยถูกไล่ออกจากบริษัทเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจ เธอจึงเกิดความคิดว่า มันไม่สำคัญหรอกว่าต้องอยู่ในองค์กรที่มั่นคง แต่สิ่งสำคัญคือ “ทักษะและความสามารถที่เรามี” มีความสามารถ ก็อยู่ได้ทุกที่
ตราบใดที่ยังมีความสามารถและทักษะเราจะใช้ชีวิตได้ตามต้องการ
พอดูแล้วก็รู้สึกว่า เราเองก็อยากจะทำงานเก่งๆ แบบนี้จังเลยได้ เป็นความรู้สึกที่เท่ไปเลย ที่ทำงานทุกอย่างได้ยอดเยี่ยม ถ้าเราทำได้บ้างก็คงเท่ไม่เบา งั้นลองสักตั้งเป็นไงล่ะ เริ่มจากลุกไปทำงานเลยยย
2. Nietzsche Sensei
ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวคอมเมดี้ ที่มีไม่กี่ตอน ดูเผินๆ เหมือนซีรีส์เน้นความฮา ความตลก แต่จริงๆ แล้วได้สอดแทรกเรื่องการทำงานไว้มากมายเลยค่ะ เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพนักงานสุดเพี้ยนในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ต่อมา วันดีคืนดีก็มีนักศึกษาหนุ่มคนหนึ่งที่เรียนคณะพุทธศาสตร์ ชื่อว่า “โทโมฮารุ นิอิ” (รับบทโดย โชทาโร่ มามิยะ) เข้ามาสมัครเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ และมีวิธีการรับมือกับลูกค้าที่ไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับ ฉายาว่า “นิทเช่ เซนเซย์”
ความน่าสนใจที่จะมาปลุกไฟในตัวเราก็คือ การถ่ายทอดความยากลำบากของชีวิตพนักงานร้านสะดวกซื้อ ไหนจะต้องจัดของขาย อดหลับอดนอน ต้องคอยรับมือกับลูกค้าในแบบต่างๆ บางทีเจอลูกค้าดุใส่มากๆ ก็อาจทำให้ท้อไปเลย แต่พวกเขาก็ยังทำงานกันต่อไป เพราะความรักในการบริการ ช่วยเหลือลูกค้า ก็ทำให้เขามีกำลังใจการทำงานต่อไปแล้ว
ถึงแม้จะยังมีลูกค้าที่รับมือยาก แต่พอเจอคนพวกนั้น แล้วมาคิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ผมสบายใจขึ้น คำขอบคุณมีความหมายมากกว่าที่ใครคิด
3. DOCTOR-X
ละครแนวหมอยอดนิยมอีกเรื่องค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอเหมือนกับตัวละครเอกในเรื่องนี้ คุณก็สามารถเกิดแรงบันดาลใจต่องานที่คุณทำได้ หากคุณอยากมีอิสระในการใช้ชีวิตแบบไม่ต้องขึ้นอยู่กับองค์กร แต่ก็มีงานทำ มีเงินใช้ ต้องดูเรื่องนี้เลย
“DOCTOR X” เรื่องราวของหมอผ่าตัดฟรีแลนซ์ “มิจิโกะ ไดมอน” (รับบทโดย เรียวโกะ โยเนะคุระ) ที่ “ไม่เคยพลาด” เลยสักครั้ง แม้จะไม่มียศเป็นถึงศาสตราจารย์ แต่ก็มีฝีมือการผ่าตัดที่ไม่แพ้ใคร และด้วยความสามารถที่เธอมี ทำให้เธอมีอิสระในการใช้ชีวิต แต่กว่าที่จะใช้ชีวิตแบบนี้มาได้ เธอก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ต้องฝึกฝนอาชีพที่เธอทำจนเก่ง
หากวันนี้เรายังจำเป็นต้องทำงานอยู่ในองค์กรก็อย่าเพิ่งท้อค่ะ ใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้ ฝึกฝนความสามารถตัวเองให้เก่ง เก่งขนาดที่ว่า ออกไปโบยบินแล้ว ก็ไม่ร่วงตกลงมา ได้ใช้ความสามารถอันเยี่ยมยอดในงานที่เรารัก
4. Jimi ni Sugoi! Koetsu Garu Kono Etsuko
เคยไหมคะ ต้องทำงานที่ตัวเองไม่ได้ถนัด ไม่ได้เรียนจบตรงสายมา อยากทำงานอีกแบบ แต่ก็จำใจต้องทำงานที่ไม่ชอบไปก่อน แถมพอเข้าไปทำงานก็ยังทำผลงานได้ไม่ค่อยดี เจอความผิดพลาดเยอะแยะ จริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่น่าจะมีใครหลายคนที่ต้องเจอค่ะ และก็มีละครญี่ปุ่นที่นำเสนอถึงอุปสรรคการทำงานแบบนี้เช่นกัน
อย่างเช่นละครเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่นางเอกไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในงานด้านพิสูจน์อักษร แต่หญิงสาวทันสมัยที่มีความรู้และความชอบเรื่องแฟชั่นอย่างเธอ ต้องมานั่งทำงานเป็นนักพิสูจน์อักษร ตรวจภาษา ที่ตัวเองไม่เคยทำ ไม่มีความรู้ และประสบการณ์ในงานนี้ แถมไม่ใช่งานในฝัน แต่เธอก็ยังทำงานต่อไปด้วยความตั้งใจที่มีค่ะ
และมันก็มีบ้างเนอะกับบางวันที่ไม่อยากจะไปทำงานเลย เธอคนนี้ก็มักจะสร้างแรงบันดาลใจด้วยการแต่งตัวสวยๆ ในแบบที่เธอชอบค่ะ แค่ได้แต่งตัวแบบที่อยากแต่ง ก็เพิ่มความสุขให้กับวันทำงานได้แล้ว และยังเป็นการเติมเต็มเรื่องแฟชั่นให้กับตัวเธอเอง แม้งานหลักจะไม่ได้ทำเกี่ยวกับสิ่งนี้ แต่เธอก็ทำให้ตัวเองอยู่กับสิ่งที่รักได้ บางทีงานที่เราไม่เคยนึกถึง อาจจะเป็นงานที่ใช่สำหรับเราก็ได้ ใครจะรู้…
ตัวอย่างคอสตูมสวยๆ ชุดใส่ไปทำงานของสาวเอ็ตสึโกะค่ะ นักพิสูจน์อักษรต้องจัดเต็มขนาดนี้ไหมเนี่ยยย
หากวันนี้รู้สึกเบื่อๆ ก็ลุกมำสิ่งที่ชอบเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทำงานก็ได้ค่ะ เช่น ลุกขึ้นมาแต่งตัวสวยๆ แบบที่เราชอบ ก็สร้างกำลังใจให้อยากไปทำงานได้เหมือนกันนะ!
5. Hanzawa Naoki
ถ้าพูดเรื่องทำงาน จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน นั่นก็คือเรื่อง Hanzawa Naoki ถ้าคุณรู้สึกว่า การไปทำงานแต่ละวันเหมือนกับต้องไปออกรบละก็ ลองมอง Hanzawa เป็นไอดอลสิคะ เพราะในแต่ละวันเขาต้องเจอศึกหนักไม่น้อย แถมงานเข้า ต้องกลายเป็นแพะรับบาป รับผิดชอบในเรื่องที่ไม่ได้ก่อ แถมยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ ด้วย (เพราะทำงานเป็นนายธนาคาร) ดูแล้วปวดหัวตุ๊บๆ แทน Hanzawa เลยล่ะค่ะ แต่ Hanzawa ก็ไม่ยอมแพ้นะคะ ก็ยังไปทำงาน และเลือกที่จะต่อกรกับคนที่เล่นไม่ซื่อกับเขา

ใครทำร้ายฉันล่ะก็…ฉันจะเอาคืนมันเป็น 2 เท่า!
แต่ก็ต้องสู้ต่อไปอย่างใจเย็น และมีสติกันนะคะ เพราะอำนาจมืดมันน่ากลัว เหมือนกับที่ Hanzawa ได้เจอในตอนจบ
นี่ก็คือละครญี่ปุ่นที่น่าจะเข้ามาจุดไฟในตัวเราให้ลุกโชนอีกครั้ง หากรู้สึกว่าหมดไฟในการทำงาน ลองหาละครเหล่านี้มาลองดูสิคะ คุณอาจจะอยากลุกออกไปทำงานทุกวัน แม้ว่ามันจะเหนื่อยยากแค่ไหนก็ตาม
จริงๆ แล้วยังมีละครญี่ปุ่นหลายเรื่องที่ให้แรงบันดาลใจในการทำงาน ใครมีเรื่องอะไรในใจ แล้วอยากแบ่งปัน ก็เข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ ^^
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– เรื่องรักลึกลับของดาราญี่ปุ่นที่ขุดไม่ได้ง่ายๆ
– 5 ซีรีส์ญี่ปุ่นที่กำลังฮอตฮิตในช่วงซัมเมอร์นี้
– รีวิว Kakegurui โรงเรียนการพนันกลับมาอีกครั้ง กับความบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม
– Leah Dizon กับการกลับมาอีกครั้งในรอบ 11 ปี
– ย้อนรอย 7 สิ่งที่เคยฟีเวอร์ ในสมัย J-POP มาแรง!
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
– hanohano.ldblog.jp
– yule.sohu.com
– www.pinterest.at
– whatispopularinjapanrightnow.com
– asianwiki.com
#ซีรีส์ญี่ปุ่น