อัศวินผู้เฝ้าประตูแห่งกาลเวลา เซเลอร์พลูโต

อัศวินผู้เฝ้าประตูแห่งกาลเวลา เซเลอร์พลูโต (Sailor Pluto)

.

เซเลอร์พลูโต เป็นอัศวินแห่งดาวเคราะห์รอบนอกคนแรกที่ปรากฏตัวขึ้นมามีบทบาทในเรื่อง หน้าที่สำคัญของเธอคือการเฝ้าประตูแห่งกาลเวลา เธอจะสามารถละทิ้งหน้าที่นี้ได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นที่เกี่ยวพันถึงการเกิดดับของอาณาจักรดวงจันทร์เกิดขึ้น

เมโอ เซ็ตซึนะ 冥王せつな สาวผิวเข้มในมาดนักวิทยาศาสตร์ผู้เงียบขรึม เธอมีอายุมากกว่าทุกคนในกลุ่มอัศวินราวกับว่าเธอคือตังแทนแห่งกาลเวลาที่มีอยู่มาเนิ่นนานแล้ว

เซเลอร์พลูโตท่าไม้ตายของเธอ (ขอขอบคุณคุณ Angel Huge ที่อนุเคราะห์ภาพสวยๆ มาประกอบบทความนะครับ)

冥王星 แปลว่าดาวพลูโต เราจะเห็นได้ว่ามีคำว่า 冥 ที่แปลว่า “ยมโลก” อยู่ด้วย พลังของดาวพลูโตหรือดาวยมนี่จึงเป็นพลังแห่งความตาย และความตายคือสิ่งที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับกาลเวลา อาวุธของเธอจึงมีรูปร่างเป็นคทาที่มีลักษณะคล้ายกุญแจเพื่อสื่อถึง “เวลา” โดยที่ปลายคทามีอัญมณีที่ชื่อว่า Garnet Rod ที่เป็น 1 ใน 3 เครื่องรางทาลิสแมน

เครื่องศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้มีอ.นาโอโกะได้แรงบรรดาลใจมาจากไตรราชกกุธภัณฑ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า อัญมณียาซาคานิ

อัญมณียาซาคานิ (Yasakani no Magatama) เชื่อกันว่ามีลักษณะคล้ายลูกน้ำ ตามตำนานเล่าว่า อัญมณีนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของสร้อยคอของเทพีอุสึเมะ ผู้เป็นเทพีแห่งความรื่นเริง อัญมณีชิ้นนี้ถูกเก็บรักษาไว้ภายในพระราชวังอิมพีเรียล ในกรุงโตเกียว เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงคุณธรรมขององค์จักรพรรดิคือความเมตตากรุณา หรือ “พระคุณ” ที่ผู้ปกครองพึงมีต่อประชาราษฎร์

ในส่วนของตำนานเทพกรีกโรมัน พลูโตหรือฮาเดสคือเทพเจ้าแห่งความตาย เป็น 1 ใน 3 มหาเทพแห่งโอลิมปัสหลังจากที่ซูสได้จัดการโค่นโครนอสและบังคับให้ปล่อยตัวพี่ชายพี่สาวออกมา ฮาเดสก็ได้รับการจัดสรรให้เป็นผู้ปกครองยมโลก ดินแดนของชีวิตหลังความตาย

ตำนานที่ขึ้นชื่อของฮาเดสก็คือการลักพาตัวเพอร์เซโฟนี เทพีผู้เป็รสัญลักษณ์แห่งการเจริญงอกงาม มีตำนานเล่าถึงเรื่องราวเหล่านี้ว่า ครั้งหนึ่งที่ฮาเดสได้พบกับเพอร์เซโฟนี ฮาเดสรู้สึกถูกชะตากับเพอร์เซโฟนีเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจลักพาตัวนางลงไปยังอาณาจักรใต้พิภพ และมอบมงกุฎอัญมณีอันแสนงดงามให้แก่นาง

แม้นางจะร้องไห้เสียใจที่ถูกลักพาตัวมาเช่นนี้ แต่ฮาเดสกลับรู้สึกยินดีที่ตนได้ครอบครองนางมาเป็นมเหสี เพอร์เซโฟนีทรงรู้สึกเกลียดเขาเป็นอย่างมากและแสดงความเย็นชาไร้เยื่อใย แต่เมื่อใดที่นางได้ปรากฎตัวขึ้นสู่พื้นพิภพ ใบหน้าที่เคยไร้ความรู้สึกก็กลับกลายเป็นใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ความแห้งแล้งที่มีอยู่บนโลกจะพลันมลายหายสิ้นเพราะเป็นวันที่นางได้กลับมาสู่อ้อมอกมารดาอีกครั้ง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ก็กลายมาเป็นตำนานแห่งการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลนั่นเอง

ฮาเดสลักพาตัวเพอร์เซโฟนี (ภาพจาก https://theconversation.com)

เมื่ออ่านมาถึงตำนานนี้ จะเห็นเลยว่าเป็นเรื่องของการ “รักเขาข้างเดียว” ซึ่งเซเลอร์พลูโตเองก็มีคนที่ตนแอบรักเช่นกันและเขาคนนั้นก็คือเอนดิเมี่ยน สวามีของเซเรนิตี้ ความรักที่เป็นไปไม่ได้ของพลูโตจึงต้องถูกแปรสภาพให้กลายเป็นความภักดีแทน และความรักนั้นยังส่งต่อมายังลูกของคนที่ตนรักอย่างสมอลเลดี้อีกด้วย

ท่าไม้ตายที่ต้องยืมพลังเทพบิดาโครนอส

เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– ด้วยพลังแห่งท้องทะเล เซเลอร์เนปจูน
– ประกายแสงแห่งความรัก เซเลอร์วีนัส
– แมกไม้ สายฟ้าและเซเลอร์จูปิเตอร์
– อัศวินแห่งเปลวเพลิงและเทพแห่งการศึก เซเลอร์มาร์ส
– พิณ วารีและเซเลอร์เมอร์คิวรี่ยอดอัจฉริยะ

#เซเลอร์พลูโต #Sailor Pluto