Remote de Korosareru ซีรีส์สืบสวนสอบสวนตอนพิเศษ ว่าด้วยเรื่องราวของเพื่อนสนิทมารวมตัวคุยกันผ่านโปรแกรมแชทออนไลน์ หรือแบบวิดีโอคอลค่ะ แต่คุยไปคุยมากลับค้นเจอเรื่องราวความหลังในอดีตที่น่ากลัว หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนตายไปทีละคน ทีละคน…
ในช่วงที่ญี่ปุ่นเผชิญกับวิกฤต COVID-19 อย่างหนัก ทำให้ละครได้รับผลกระทบเหมือนกัน แต่ในช่วงนี้เราก็ได้เห็นไอเดียหลากหลายของผังละครเพื่อให้วงการเดินหน้าต่อไปได้ นอกจากการเอาละครเก่ามารีรันแล้ว ยังมีละครใหม่ที่อาศัยการถ่ายทำในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย และใช้ COVID-19 เป็นธีมในการดำเนินเรื่องด้วย อย่างเช่นเรื่องนี้ค่ะ Remote de Korosareru ซีรีส์สืบสวนสอบสวนตอนพิเศษ ว่าด้วยเรื่องราวของเพื่อนสนิทมารวมตัวคุยกันผ่านโปรแกรมแชทออนไลน์ หรือแบบวิดีโอคอลค่ะ แต่คุยไปคุยมากลับค้นเจอเรื่องราวความหลังในอดีตที่น่ากลัว หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนตายไปทีละคน ทีละคน…
Remote de Korosareru ฆาตกรรมต่อเนื่องออนไลน์
หลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้คนญี่ปุ่นต้องกักตัวอาศัยอยู่ในบ้าน ด้วยความที่อยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปเจอเพื่อนฝูงเหมือนแต่ก่อน เลยทำให้แก๊งหนุ่ม-สาวแก๊งหนึ่ง ชวนมาพูดคุยแก้เหงาผ่านโปรแกรมแชทออนไลน์แบบวิดีโอคอลกัน ซึ่งมีทั้งหมด 6 คนด้วยกัน เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย เมื่อคุยกันไปเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็มีคนพูดถึงเพื่อนที่ชื่อ “คาซุมะ” ที่นั่งเมาแบบไม่รู้เรื่องอยู่บนดาดฟ้าโรงเรียนในวันที่มีปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนในกลุ่ม
เพื่อนคนนี้กลายมาเป็นประเด็นในบทสนทนาเพราะว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีตำรวจ 2 นายออกตามหาคาซุมะ และคาซุมะก็ไปหาเพื่อนทั้ง 6 คนในกลุ่ม เพื่อให้ปกปิดความลับ ที่เขาดันไปจับภาพวินาทีสุดท้ายของ “ยูมิโกะ” ดาวเด่นของโรงเรียนที่กระโดดตึกตาย ซึ่งในตอนนั้นมีข่าวลือว่าเธอตั้งท้อง แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก
ยูมิโกะเองก็ขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้ เข้าไปพัวพันกับผู้ชายหลายคนในเวลาเดียวกัน แต่มีเพื่อนบางคนในกลุ่มแชทเริ่มสงสัยว่า แต่ในตอนนั้นยูมิโกะไม่ได้คบกับใครเลยนะ เธออาจไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวเขาลือกันหรอก และถ้าอย่างนั้นทำไมต้องกระโดดตึกฆ่าตัวตายด้วยละ และทันใดนั้นก็เริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น เพื่อนที่คุยกันผ่านหน้าจอ เริ่มหายกันไปทีละคน…
สิ่งที่ชวนให้ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ
สำหรับซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนี้เป็นละครสั้นๆ เพียงแค่ 45 นาที หรือที่ญี่ปุ่นเรียกกันว่าเป็นละครแบบ “Tenpatsu” ที่จบในตอน ฉากของละครไม่มีอะไรมากเลยค่ะ เป็นฉากหลังของห้องเพราะแต่ละคนออกไปไหนไม่ได้เนื่องจากกักตัว และเป็นฉากของแชทวิดีโอ ที่แก๊งเพื่อนสนิทสมัยม.ปลาย 6 คนมาพูดคุยกัน แต่ขอบอกว่าเลยว่า สามารถดึงคนดูอย่างเราให้ติดตามได้ตั้งแต่แรกจนจบ เพราะอะไรนั้น เราลองมาดูความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้กันเลยค่ะ
1. ดึงเอาเหตุการณ์ปัจจุบันมาผูกเป็นซีรีส์สืบสวน
ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าได้เข้าไปอยู่ในนั้นจริงๆ เพราะดึงเอาเหตุการณ์ปัจจุบันอย่าง COVID-19 มาเป็นฉาก บรรยากาศในการเล่าเรื่อง และเอาประเด็นการที่ทุกคนถูกกักตัวอยู่ในบ้านมาผู้เป็นพล็อตเรื่องสืบสวนได้อย่างน่าระทึก ก็แอบดูหลอนๆ เหมือนกันนะคะ นั่งคุยกับเพื่อนอยู่ผ่านจอคอมพิวเตอร์ จู่ๆ เพื่อนก็หายไป เห็นอีกทีเพื่อนสลบเหมือดคาจอนองเลือดแบบเรียลไทม์ และมันไม่ใช่แค่คนเดียว แต่เป็นฆาตกรต่อเนื่อง ที่ทุกคนตกอยู่ในความเสี่ยง และไม่รู้เลยว่าใครคือฆาตกร
ป.ล. ส่วนการถ่ายทำก็เป็นไปอย่างรัดกุมและปลอดภัยค่ะ มีการใส่ Face Shield ในระหว่างอยู่ในนกองถ่ายด้วย
2. ความลุ้นระทึกแบบเรียลไทม์
แม้ฉากจะดูนิ่ง เห็นแต่หน้าจอโปรแกรมแชทหกช่อง หกคน แต่ขอบอกว่าเนื้อเรื่องมันกลับไม่นิ่งอย่างที่คิด ซีรีส์ได้เล่าสลับไปมาระหว่างเหตุการณ์ในอดีตที่เพื่อนคนหนึ่งกระโดดตึกลงมาแล้วเสียชีวิต พร้อมกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่เพื่อน 6 คนกำลังคุยผ่านโปแกรมแชทกันอยู่ พอเรื่องการเสียชีวิตของเพื่อนในอดีตกลายมาเป็นประเด็น และเริ่มมีคนค่อยๆ รู้ความจริง ก็มีเหตุการณ์น่ากลัวเกิดขึ้น มีคนถูกฆาตกรรมในขณะที่นั่งคุยกับเพื่อนแบบเรียลไทม์ และเหมือนไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ และทุกคนก็ตกเป็นเป้าหมายของเหยื่อ ที่ต่างคนต่างระแวงว่า จะมีชีวิตรอดจากค่ำคืนนี้หรือไม่
3. ลูกล่อลูกหลอกตลอดทั้งเรื่อง
เพราะการสับขาหลอกของเรื่อง ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ชวนติดตามตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง พอมีเหตุการณ์ฆาตกรรมต่อเนื่องเกิดขึ้น ก็ทำให้คนในกลุ่มสงสัยว่า แล้วเรื่องราวในอดีตจริงๆ มันเป็นอย่างไร พอจะมีคนบอกความจริง คนๆ นั้นก็หายไปจากจอ และกลับมาอีกทีในสภาพนองเลือด เลยทำให้คนที่เหลือขวัญผวา เริ่มระแวงว่าใครเป็นฆาตกร ในเมื่อการคุยผ่านวิดีโอแชทนี้มีเพียง 6 คนนี้ที่รู้เรื่อง คนที่จะลงมือก็น่าจะเป็นคนในนี้แหละ แต่ดูเหมือนว่าทุกคนก็เริ่มหายไปจนหมด แล้วใครกันแน่คือฆาตกร? ซึ่งพอดูไปทั้งเรื่องก็จะพบว่า ฆาตกรมีความเนียนกว่าที่คิด และต้นตอสาเหตุของเหตุการณ์เสียชีวิตของ “ยูมิโกะ” ก็เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริงๆ ค่ะ (บอกไม่ได้เดี๋ยวสปอยล์…) เอาจริงๆ คำตอบของปริศนาทั้งหมดจะซ่อนอยู่ในแววตา มุมกล้อง และบทสนทนาของแต่ละคนค่ะ
4. ปริศนาที่ยากจะคาดเดา ถึงกับต้องมีตอนเฉลย
พอเรื่องดำเนินถึงตอนจบ ปริศนาทุกอย่างก็เริ่มถูกคลี่คลาย ซีรีส์เริ่มเผยว่า ความจริงคืออะไร และใครเป็นคนลงมือ แต่อย่างที่บอกค่ะว่าละครเรื่องนี้มีลูกล่อลูกหลอกเยอะ ต่อให้ถึงตอนจบก็ยังงงๆ รู้แล้วแหละว่าใครคือคนร้าย แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า แล้วลงมือได้ยังไง จนทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีภาคพิเศษออกมาอีกหนึ่งตอน ที่เป็นตอนเฉลยเหตุการณ์ทุกอย่างให้แจ่มแจ้ง รวมถึงปมขัดแย้งระหว่างตัวละครในเรื่องด้วย ที่เป็นเหมือนหนังคนละม้วนที่ดูมาตั้งแต่ตอนแรก
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ญี่ปุ่นแนวสืบสวนสอบสวนที่สนุก น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง และรวมดารานักแสดงชั้นนำของวงการไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น อัตจัง อดีตสมาชิกวง AKB48, แม็คเคนยู อาราตะ, ฮอนดะ สึบาสะ เป็นต้น ซีรีส์ที่ชวนให้เราขบคิด ร่วมค้นหาผู้ทำความผิดไปกับตัวละครในเรื่อง พร้อมเข้าใจจิตใจด้านมืดของมนุษย์คนหนึ่ง…
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Watashi, Teiji de Kaerimasu แหวกขนบทำงานดึกด้วยการเลิกงานตรงเวลา
– Hanzawa Naoki ภาค 2 มันส์ขึ้น 2 เท่า
– 5 อันดับซีรีส์ญี่ปุ่นเรตติ้งสูงสุดในช่วง COVID-19
– รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น Queen ทีมทนายความรับจัดการข่าวฉาว
– 5 ซีรีส์ญี่ปุ่นลึกลับ ระทึกขวัญ แบบไม่นองเลือด
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
– https://wiki.d-addicts.com
– https://www.nikkansports.com
– https://kenjiroo.com/remote1/
– https://kenjiroo.com/remote2/
– https://realsound.jp
– https://www.oricon.co.jp
#Remote de Korosareru ฆาตกรรมต่อเนื่องผ่านวิดีโอคอล