5 ซีรีส์ญี่ปุ่น ที่เอาไว้ดูตอนฟีลดาวน์ ใน Netflix
ถ้ารู้สึกดาวน์ๆ ขาดแรงบันดาลใจ ลองมาดูซีรีส์ญี่ปุ่นที่มีเนื้อเรื่องที่ดีต่อใจ พร้อมให้แรงบันดาลใจใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กัน ว่าแต่จะมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจบ้าง ลองมาดูกันเลยค่ะ
1. La Grand maison Tokyo

นอกจากจะเป็นซีรีส์แนวอาหารชวนหิวแล้ว จุดเด่นของเรื่องนี้ที่ใครๆ ต่างก็ต้องยกนิ้งให้ว่าเป็นสุดยอดซีรีส์ญี่ปุ่นที่ดีสุดๆ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เป็นเรื่องที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน ที่กลับมาลุกโชนอีกครั้งค่ะ สำหรับเรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของ “โอบานะ นัตสึกิ” (รับบทโดย ทาคุยะ คิมูระ) เชฟร้านอาหารฝรั่งเศสระดับ 2 ดาวมิชลิน ชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์กลับต้องร่วงดิ่งถึงจุดต่ำสุดทันทีด้วยเหตุการณ์อะไรบางอย่าง และในระหว่างที่เขากำลังระหกระเหินบางหาเป้าหมายใหม่ที่ใหญ่กว่า เขาก็ได้พบกับ “รินโกะ” เชฟหญิงที่เพิ่งผิดหวังจากการสอบเข้าเป็นเชฟร้านอาหารฝรั่งเศส 3 ดาวมิชลินเข้าอย่างบังเอิญ แต่การพบเจอกันของพวกเขา กลับเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ใหม่ของโลกอาหาร พวกเขาตัดสินใจที่จะร่วมสร้างร้านอาหารฝรั่งเศสในโตเกียวไปด้วยกัน ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นร้านที่คว้า 3 ดาวมิลลินให้ได้!
2. Talentless Takano

ต่อไปมาที่ซีรีส์แนวการทำงานบ้างค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไปว่า ดูแล้วจะยิ่งเครียด Burn Out ยิ่งกว่าเดิมหรือเปล่า เพราะซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างแหวกแนวจากซีรีส์แนวทำงานเดิมๆ ก็คือ เป็นเรื่องราวที่ตัวละครเอกของเรื่องทำงานอะไรไม่เป็นเลย ใช้ชีวิตแบบชิลขั้นสุด เรื่องราวของ “ทสึเมโกะ ทาคาโนะ” (รับบทโดย นานาโอะ) สาวสวยที่มีบุคลิกดี ไม่ว่าจะเดินไปไหน ทำอะไร ก็สะกดทุกสายตา ราวกับมืออาชีพที่น่าจะจัดการงานทุกอย่างได้อย่างอยู่หมัด แต่ความเป็นจริงแล้วเธอแทบจะทำงานอะไรไม่เป็นเลย แต่ด้วยดูมีทรงน่าจะทำงานดี เลยผ่านการสัมภาษณ์บริษัทไอทีแบบผ่านฉลุย

และได้ไปเจอกับ “มิจิโตะ ฮิวาดะ” (รับบทโดย อากิฮิซะ ชิโอโนะ) หนุ่มพูดน้อย ท่าทางไม่ค่อยมั่นใจ แต่มีความสามารถ ไม่ว่าจะเจออะไรก็ทำได้หมด อยู่มาวันหนึ่ง ทาคาโนะกับฮิวาดะก็ถูกจับให้เป็นคู่หูทำงานร่วมกัน แล้วเรื่องราววุ่นๆ ของทั้งคู่ก็ได้เริ่มต้นขึ้นค่ะ

แม้ว่าคาแร็กเตอร์ทาคาโนะจะดูอิหยังวะไปบ้าง แต่พอดูๆ ไป ก็ได้แง่มุม Work Life Balance มากขึ้น ที่เหมือนเธอเป็นตัวแทนมาบอกทุกคนว่า ถ้าวันนี้มันหนักเกินไป ก็พักบ้างก็ได้ หัดใจดีกับตัวเองบ้าง ไม่จำเป็นต้องทำให้ได้ทุกอย่าง หรือพยายามไปซะหมดกับทุกเรื่องหรอก
3. Shinjuku Field Hospital

มาต่อกันที่ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวหมอๆ กันบ้างค่ะ ปกติแล้ว เวลาเราพูดถึงซีรีส์หมอ ภาพจำที่ตามมาเสมอเลยคือ ซีรีส์แนวจริงจัง เครียดๆ คอยลุ้นกับการช่วยเหลือชีวิตคนใช่ไหมคะ แต่เรื่องนี้กลับให้ภาพที่ตรงกันข้ามเลยค่ะ เป็นซีรีส์หมอที่ให้ทั้งมุมคอมเมดี้ ดราม่าชีวิต และสะท้อนภาพปัญหาสังคม สำหรับเรื่องราวย่อๆ ของซีรีส์เรื่องนี้ เรื่องราวของโรงพยาบาลในย่านบันเทิงญี่ปุ่น ที่ไม่ค่อยมีใครอยากมาเยือน เพราะทั้งสภาพรพ.และการรักษา ที่ไม่รู้ว่าจะรอดหรือร่วง ตอนนี้กำลังเผชิญกับวิกฤตทางการเงิน ส่อแววจะต้องปิดตัวลง เลยต้องหาศัลยแพทย์ ที่น่าจะช่วยผ่าตัด รักษาเคสยากๆ ได้

และแล้ว จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนนึงแอดมิดเข้ามาด้วยอาการแอลเป็นพิษ พอฟื้นมา เลยได้รู้ว่า จริงๆ แล้วเธอเป็นหมอทหาร จากอเมริกา ไหนๆ ที่นี่ก็ไม่มีหมอศัลย์ฯ ขอเป็นหมอที่นี่เลยแล้วกัน! เรื่องราวอลเวงของหมอในโรงพยาบาลนี้จะเป็นอย่างไรต้องติดตามค่ะ ตัวละครในเรื่องแต่คนก็ฮารั่วกันแบบสุดๆ ค่ะ และมักจะมีเคสแปลกๆ เข้ามา เช่น บูลทูธติดจมูก จิมิล็อก จุ๊ดจู๋ติดเข้าไปในขวด และยิ่งกว่านั้นทีมแพทย์ในโรงพยาบาลนี้ก็ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ด้วย แต่พอถึงโหมดจริงจังก็จริงจังขั้นสุด ค่ะ เคสคนไข้บางเคส ก็จะสอดแทรกประเด็นปัญหาทางสังคมญี่ปุ่น เช่น คนไร้บ้าน การค้าประเวณี การล่วงละเมิดทางเพศ ปัญหาครอบครัว การเข้าถึงสวัสดิการรัฐในสังคม ที่เรียกได้ว่าสะท้อนปัญหาสังคมได้แบบเฉียบคมจริงๆ
4. After School Doctor

อีกหนึ่งซีรีส์หมอมาใหม่ที่น่าติดตามค่ะ โปสเตอร์ซีรีส์อาจจะดูธรรมดา แต่เนื้อหาข้างในเกินคาดมาก เป็นเรื่องราวของกุมารแพทย์ “มากิโนะ” (รับบทโดย โคเฮย์ มัตสึชิตะ) ที่อยู่มาวันหนึ่ง ด้วยเหตุการณ์อะไรบ้างอย่าง ทำให้เขาถูกสั่งย้ายมาเป็นหมอประจำห้องพยาบาลที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ทำได้แค่เพียงการปฐมพยาบาล ถ้ามากกว่านั้นห้ามรักษาแต่ต้องรีบส่งมาโรงพยาบาลด้วยบุคลิกที่ไม่ค่อยน่าเป็นมิตร ทำให้เด็กๆ หลายคนกลัวที่จะเข้ามาที่ห้องพยาบาล แต่ถึงอย่างนั้นหมอมากิโนะ ก็วินิฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ และช่วยเหลือเด็กๆ ด้วยความเข้าเอาเข้าใจ ที่รักได้ทั้งกาย หัวใจ และจิตวิญญาณ

เป็นซีรีส์หมอแนวละมุนๆ แม้ตัวละครเอกอย่างคุณหมอมากิโนะจะดูท่าทางเย็นชา แต่ลึกๆ ก็เป็นคนจิตใจดี ใส่ใจรายละเอียดของคนรอบข้าง อีกทั้งเคสแต่ละเคสไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน แต่เป็นโรคที่ไม่ค่อยคุ้น เช่น EPแรกเปิดมาด้วยเคสของเด็กที่มักจะสัปหงกและหลับในห้องบ่อยๆ จนถึงขั้นคุยๆ กับเพื่อนอยู่ก็หลับกลางอาการไปเฉย อาจจะเหมือนเด็กอดนอน แต่จริงๆ เป็นโรคที่เราเองอาจจะคาดไม่ถึง นอกจากนี้ ซีรีส์ยังแทรกเรื่องราวครอบครัว ปมของตัวละครที่ต้องคอยตามต่อว่ามันคืออะไร รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างครู นักเรียน และมิตรภาพของเด็กๆ ที่ดูแล้วทั้งได้ข้อคิดชีวิต และอบอุ่นใจไปพร้อมๆ กันค่ะ ใครสนใจแนวหมอๆ แล้วอยากดูอะไรที่ฟีลกู๊ด แนะนำเลยค่ะ
5. Light of My Lion

เรื่องราวของ “โคโมริ ฮิโรโตะ” (รับบทโดย ยูยะ ยากิระ) ที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ไปด้วยอุบัติเหตุ ทำให้เขาต้องดูแลตัวเอง และต้องดูแล “มิจิโตะ” (รับบทโดย เรียวตะ บันโดะ) น้องชาย ที่ป่วยเป็นออทิสติก ดูเหมือนว่าชีวิตของพวกเขาก็ดำเนินไปตามปกติในแต่ละวัน ฮิโรโตะก็ต้องออกไปทำงาน ในขณะเดียวกันก็ต้องดูแลน้องชายของตัวเองไปด้วย แต่แล้วจากชีวิตที่ราบเรียบก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่ออยู่มาวันหนึ่งพวกเขาเจอเด็กน้อยคนหนึ่งที่ชื่อว่า “ไลออน” (รับบทโดย ทาสุคุ ซาโตะ) ถูกทิ้งไว้หน้าบ้าน ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจรับอุปการะเลี้ยงดูเด็กคนนี้ พร้อมกับตามหาความจริงว่า แท้จริงแล้ว พ่อแม่ของเด็กคนนี้คืออะไร ทำไมถึงมาถูกปล่อยทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของพวกเขา

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ก็เป็นแนวครอบครัวดราม่าค่ะ ที่ชวนให้เราได้มองเห็นถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว รวมถึงปัญหาทางครอบครัว ที่ดูๆ แล้วก็ไม่ได้ไกลเกินจริงเลย และในขณะเดียวกัน ด้วยความรัก ความผูกพันของคนในครอบครัว ก็มีหลายฉากที่ชวนให้เราอมยิ้ม และในขณะเดียวกันก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
นี่ก็คือซีรีส์ญี่ปุ่นสนุกๆ ที่ดูแล้วชวนให้รู้สึกฟีลกู๊ด มีแรงบันดาลใจค่ะ ถ้าช่วงนี้ใครรู้สึกดาวน์ หรือหมดกำลังใจ นี่คือซีรีส์ญี่ปุ่นที่จะช่วยเพิ่มสีสัน ความอบอุ่นใจได้เลยค่ะ ซึ่งลิสต์ซีรีส์ญี่ปุ่นที่แนะนำในบทความนี้ สามารถรับชมกันได้เลยที่ทาง Netflix ค่ะ
– รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น Talentless Takano สาวสวยทำทรงทำงาน แต่ทำอะไรไม่เป็น!
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องแนะนำ :
– 5 ซีรีส์สืบสวนญี่ปุ่นใน Netflix 2024 พล็อตสนุก หักมุม น่าดู
– Secret Makeover สาวลึกลับขอแปลงโฉมสาวธรรมดาให้กลายเป็น CEO!
– La Grand Maison Tokyo ทำไมถึงควรค่าแก่การรับชม
– 5 ซีรีส์ญี่ปุ่นเก่าใน Netflix ที่น่าดู ดูซ้ำอีกทีก็ไม่มีเบื่อ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก:
– https://www.fujitv.com/drama/shinjuku-yasen/
– https://mdpr.jp/drama/detail/4419760
– https://news.yahoo.co.jp/articles/
– https://www.ntv.co.jp/houkagokarte/
– https://realsound.jp/movie/2024/10/post-1821494.html
– https://mantan-web.jp/article/20241025dog00m200025000c.html
#5 ซีรีส์ญี่ปุ่น ที่เอาไว้ดูตอนฟีลดาวน์ ใน Netflix #Japan Series #ละครญี่ปุ่น