วันนี้ขอมาแนะนำซีรีส์และภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการลุกขึ้นมาทำเพื่อชาติแบบสันติวิธีแม้จะผ่านเรื่องราวเลวร้ายอย่างสิ้นหวัง
บางครั้งละครหรือภาพยนตร์ก็ไม่ใช่แค่เรื่องที่ดูไว้เพื่อความพลิดเพลินหรือเพื่อความสนุกเสมอไป แต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สะท้อนและทำให้เราฉุกคิดถึงชีวิตหรือสังคมในมุมมองต่างๆ มีซีรีส์และภาพยนตร์ญี่ปุ่นหลายเรื่องที่นำเสนอเรื่องราวทางการเมืองและประเทศชาติ ที่ทำให้คนดูรู้สึกรักและหวงแหนประเทศของตัวเอง และลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆ ให้บ้านเมืองน่าอยู่ ให้เพื่อนร่วมประเทศของเรามีความสุขด้วยวิธีการต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงเสมอไป
วันนี้เลยขอมาแนะนำซีรีส์และภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการลุกขึ้นมาทำเพื่อชาติแบบสันติวิธีแม้จะผ่านเรื่องราวเลวร้ายอย่างสิ้นหวัง พวกเขาก็ยังก้าวต่อไปด้วยจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ จะมีเรื่องอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
1. Kouhaku ga Umareta Hi: ใช้กระบอกเสียงเพลง แทนกระบอกปืน
นี่คือซีรีส์ภาคพิเศษเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่นคือ ที่เล่าถึงความเป็นมาของรายการเพลงอันศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นนั่นก็คือ “Kohaku Uta Gassen” หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “งานมหกรรมขาว-แดง” ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
ในสมัยนั้นสหรัฐอเมริกาได้ส่งกองกำลังทหารเข้ายึดครองสถานีวิทยุกระจายเสียงโตเกียว เพื่อควบคุมสื่อทั้งของญี่ปุ่น และตรวจสอบไม่ให้มีรายการที่มีเนื้อหาสุ่มเสี่ยง หรือปลุกเร้าประชาชนให้ลุกฮือ สิ่งที่เผยแพร่ได้ต้องสื่อถึงความเป็นประชาธิปไตย ในตอนนั้นไม่มีทั้งเสียงหัวเราะ หรือเสียงเพลง มีแต่เสียงร้องไห้ระงมกึกก้องไปทั่วเมืองญี่ปุ่น
และแล้ว “ชินโด” (รับบทโดย Matsuyama Kenichi) หนึ่งในทำงานในสถานีวิทยุกระจายเสียง เป็นประชาชนคนหนึ่ง ที่ทนเห็นสภาพอันเศร้าโศกไม่ได้ และอยากช่วยฟื้นฟูประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง เลยสร้างรายการ “งานมหกรรมประชันเพลงขาวแดง” รายการนี้จะแบ่งออกเป็นทีมหญิงและชาย แล้วมาร้องเพลงประชันกัน เหมือนกับทีมขาว ทีมแดงในการแข่งเคนโด้ แต่การทำรายการนี้ให้เกิดขึ้นจริงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านกองเซ็นเซอร์กองทหารอเมริกัน ด้วยคอนเซปต์ของรายการที่ออกไปทางแข่งขันสักหน่อย ซึ่งทางฝั่งทหารอเมริกันก็กลัวจะสื่อถึงการใช้กำลัง และการต่อต้าน
แต่ถึงอย่างนั้นชินโดก็สู้ไม่ถอย ด้วยการแสดงเจตนารมณ์ที่ดี อยากจะเปลี่ยนการใช้กระบอกปืน เป็นกระบอกเสียงเพลง รวมพลังใจคนในชาติอีกครั้ง รายการเทปแรกได้ฉายออกไปด้วยพลังของศิลปินที่อยากกลับมาปลอบประโลมหัวใจของคนญี่ปุ่นอีกครั้ง และผู้ที่ตัดสินคนชนะในเทปนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ เสียงจากประชาชนนั่นเอง นับว่าเป็นรายการที่สื่อถึงความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบค่ะ
และนี่ก็เป็นที่มาของรายการเพลงชื่อดังของญี่ปุ่นที่มีจนมาถึงทุกวันนี้ รายการเพลงที่ช่วยกอบกู้ชาติญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่นขึ้นมาอีกครั้ง และที่สำคัญ
“ผมอยากต้อนรับปีใหม่ไปพร้อมกับทุกคน
ปีที่แตกต่างจากปีก่อนหน้า ผมอยากมอบเพลงให้พวกเขาลืมเรื่องเลวร้ายเหล่านั้น”…
2. Teiichi no kuni: ใช้ความซื่อตรงในการเปลี่ยนแปลงประเทศ
สำหรับเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นค่ะ ที่สะท้อนถึงเรื่องการเมือง และปกป้องประเทศด้วยความรักชาติที่แท้จริง เรื่องราวของภาพยนตร์ก็เริ่มจากชีวิตของ “เทอิจิ” (รับบทโดยสุดะ มาซากิ) เด็กหนุ่มที่มีพ่อเป็นนักการเมืองไฟแรง แต่ในตอนที่เขายังเด็ก ก็ไม่ได้สนใจที่อยากจะเป็นนักการเมืองเหมือนพ่อหรอกค่ะ แต่อยู่มาวันหนึ่งเทอิจิประสบอุบัติเหตุ หลังจากฟื้นขึ้นมา ก็เหมือนไปโดนสวิตซ์ตัวไหนไม่ทราบ จู่ๆ เทอิจิก็บอกพ่อและแม่ว่า “เขาจะเป็นนายกฯ” แล้วอยากจะสร้างประเทศของตัวเอง!
เทอิจิ เลยมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกฯ ให้ได้ เพื่ออยากเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างของประเทศนี้ ต้องเป็นผู้มีอำนาจเท่านั้น ถึงจะทำอะไรแบบนั้นได้ เขาเลยไปสมัครสอบเข้าโรงเรียนไคเท ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนที่มีชื่อเสียงในยุคโชวะ และเป็นโรงเรียนที่ผลิตทั้งนักการเมืองและข้าราชการที่ความสามารถออกไปสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง และเขาว่ากันว่า หากใครได้เป็น “ประธานนักเรียน” หรือได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มประธานนักเรียน หรือสภานักเรียน ก็จะมีโอกาสเข้าสู่โลกการเมือง และอาจเป็นทางลัดสู่การเป็นนายกรัฐมนตรีเลยก็ว่าได้
เทอิจิเลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนนี้ให้ได้ และในระหว่างทาง เขาก็ได้ค้นเจออุดมการณ์บางอย่างจากเหล่ารุ่นพี่ เสมือนโลกการเมืองในชีวิตจริง ที่มีทั้งฝั่งให้สิทธิ์ขาดกลับกลุ่มสภานักเรียน กับกลุ่มคนที่อยากเปลี่ยนโครงสร้างโรงเรียนให้เกิดระบอบประชาธิปไตย ที่มีประธานนักเรียนมาจากการเลือกตั้งของนักเรียนทุกคน
ซึ่งเทอิจิเป็นนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มหลัง ที่อยากจะสร้างความเป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้ แม้ว่าฝั่งที่เห็นด้วยกับเขานั้นมีไม่มากนัก แต่เขาก็เลือกที่จะใช้ความสามารถและพลังใจที่มีเพื่อขับเคลื่อนอะไรบางอย่างในสังคม ด้วยเหตุผลเล็กๆ ของเขา ที่แท้จริงแล้วไม่ได้อยากกุมอำนาจอะไรไว้ แต่มันเป็นเพียงความมุ่งมั่นว่า
“อยากจะสร้างประเทศในฝัน และไม่มีใครมารบกวนชีวิตอันสงบสุข”
3. Change: จากคนไม่สนใจการเมือง สู่การปกป้องประชาชนด้วยหัวใจ
ถ้าพูดถึงความรักชาติบ้านเมือง จะข้ามซีรีส์เรื่องนี้ไปไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะซีรีส์เรื่อง CHANGE นับว่าเป็นซีรีส์พล็อตการเมือง ที่สื่อถึงความรักชาติ และอุดมการณ์ปกครองประเทศที่ยึดจากหัวใจประชาชนอย่างแท้จริง
นี่เป็นเรื่องราวของ “อาซากุระ เคตะ” ครูสอนเด็กประถม หน้าตาดีคนหนึ่ง มีงานอดิเรกชอบดูดวงดาว และพอใจในชีวิตอันเรียบง่าย แม้เขาจะเป็นลูกชายของนักการเมือง แต่เขาไม่มีความสนใจเรื่องการเมืองเลยแม้แต่น้อย
แต่แล้ววันหนึ่งพ่อของเขาได้เสียชีวิตลง ทำให้พรรคตามหาผู้มาสืบทอดตำแหน่งแทน และนั่นก็เป็นใครไม่ได้นอกจาก “อาซากุระ เคตะ” และเขาก็ได้ถูกตามตื้อให้เข้ามาสู่โลกการเมืองและเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่น แต่ติดตรงที่ว่าเคตะ “เกลียดโลกการเมือง” มากที่สุด เพราะเขาคิดว่า สิ่งนี้ไม่เคยผลักดันให้ประเทศก้าวหน้าและทำให้ประชาชนมีความสุขอย่างแท้จริง นอกจากพวกนักการเมืองด้วยกันเอง
“แล้วคุณไม่คิดที่จะทำให้มันเป็นโลกที่ดีขึ้นเหรอ”
จากคำพูดนี้เลยทำให้เคตะฉุกขึ้นอะไรบางอย่าง แล้วเขาก็ตัดสินใจเดินเข้าสู่โลกการเมือง แม้จะไม่มีความรู้เรื่องการเมืองเลย รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ อะไรทั้งนั้น แต่เขาก็สัญญาว่าจะเรียนรู้และทำหน้าที่นี่ให้ดีที่สุด ด้วยการรับฟังและเข้าใจเสียงของประชาชน
“ด้วยสองตาที่เหมือนกับท่าน ผมสัญญาว่า
ผมจะมองปัญหาที่มีอยู่ในการเมืองขณะนี้ และแก้ไขให้มันถูกต้อง
ด้วยสองหูที่เหมือนท่าน ผมสัญญาว่า
ผมจะตั้งใจฟังเสียงจากผู้อ่อนแอในสังคม
แม้มันจะผ่าเบาสักแค่ไหนก็ตาม
ด้วยขาสองข้างที่เหมือนท่าน ผมสัญญาว่า
ผมจะเดินเข้าไปในที่ใดก็ตามที่กำลังเกิดปัญหาโดยไม่ลังเล
ด้วยสองมือที่เหมือนพวกท่าน ผมสัญญาว่า จะใช้มันทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
และจะชี้นำประเทศไปสู่หนทางที่ควรจะเป็น
ทุกๆ อย่างของผม ก็เหมือนกับทุกๆ อย่างของท่าน”
4. BG Personal Bodyguard: ปกป้องผู้คน ด้วยมือเปล่า
ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวบู๊ แอคชั่น ที่เล่าถึงเรื่องราวชิวิตของทีมบอดีการ์ดทีมหนึ่งที่ปกป้องชีวิตของลูกค้ายิ่งชีพ ได้สอดแทรกข้อคิดถึงการต่อสู้และปกป้องผู้อื่นได้อย่างแยบยลค่ะ สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ “อากิระ ชิมาซากิ” (รับบทโดย ทาคุยะ คิมูระ) พ่อหม้ายลูกติด 1 คน อดีตของเขาเคยเป็นบอดี้การ์ด แต่ต้องลาออกเพราะเหตุการณ์บางอย่าง เขาเลยหันมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ไซต์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้รับกลับไปสู่วงการบอดี้การ์ดอีกครั้ง แม้เรื่องราวในอดีตจะทำให้เขารู้สึกกล้าๆ กลัว แต่เขาก็ตัดสินใจกลับเข้าสู่อาชีพบอดี้การ์ดอีกครั้งกับทีมมากฝีมือ ที่จะคุ้มกันและปกป้องลูกค้าทุกคนยิ่งกว่าชีวิต
จุดเด่นของเรื่องนี้คือ ตัวละครเอกอย่างชิมาซากิ ไม่ใช่ฮีโร่ที่มีอาวุธครบมือขนาดนั้น ด้วยกฎหมายของบ้านเมือง ทำให้บอดี้การ์ดเอกชนไม่สามารถพกอาวุธใดๆ ได้ ยกเว้นเสียแต่ทีมเอสพี เหล่าคนคุ้มกันนักการเมือง หรือคนของรัฐบาลเท่านั้นที่จะพกอาวุธได้ ชิมาซากิมักจะถูกคนของทีมเอสพีเย้ยหยันเสมอว่า ไม่มีอาวุธแบบนี้จะปกป้องใครได้ และถูกเปรียบว่าเป็นเพียงแค่โจรโยจิมโบ แต่ชิมาซากิก็ยังเชื่อมั่นในอุดมการณ์ว่า เขาเป็นบอดี้การ์ดเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนอื่น ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร
“คุณรู้ไหมว่า โยจิมโบ แปลว่าอะไร
เดิมที่แล้วมันไม่ได้แปลว่านักเลงที่มาเฟียหรือซามูไรจ้างเพื่อฆ่าศัตรู
เสาที่ใช้ปกป้องตัวเองจากศัตรู เรียกว่า โยจิมโบ”
“แล้วมันยังไง”
“ถ้าคุณไม่ชักปืนออกไป ผมว่าเขาก็ไม่ชักมีดออกมาหรอก
ถึงผมจะเป็นบอดี้การ์ดที่ไม่มีอาวุธ
แปลว่าผมสามารถปกป้องได้อย่างถูกต้อง”
และในทุกภารกิจชิมาซากิก็ปกป้องผู้คนด้วยสองมือและสองเท้าที่เขามี โดยไม่ใช้อาวุธใดๆ แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเต็มไปด้วยอาวุธครบมือ นี่ได้พิสูจน์ให้เขาได้เห็นว่า การปกป้องผู้คนที่แท้จริง ไม่ต้องทำร้ายใคร แม้แต่คนที่เป็นศัตรูของตัวเอง
นี่เป็นเพียงซีรีส์และภาพยนตร์แค่บางเรื่องเท่านั้นที่เล่าถึงเรื่องการเมืองได้อย่างตรงไปตรงมา มีเนื้อเรื่องที่สร้างขวัญและกำลังใจต่อคนในประเทศ และสะท้อนการแสดงออกทำเพื่อชาติในแบบที่ไม่ใช่ความรุนแรง แม้ว่าซีรีส์หรือภาพยนตร์ญี่ปุ่นในบางเรื่องจะมีภาพที่สื่อถึงความรุนแรงไปบ้าง แต่ก็มีหลายเรื่องอยู่เช่นกันที่ทำให้เราเห็นพลังของมือเปล่า และความเมตตาที่มีต่อเพื่อนมนุษย์
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Hanzawa Naoki บทสรุปของมนุษย์เงินเดือนที่จะเอาคืนเป็นสองเท่า!!!
– 5 ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวคุณครู ที่ทุ่มทั้งชีวิตเพื่ออนาคตของลูกศิษย์
– 4 ซีรีส์ญี่ปุ่นและการเมือง
– มาทำความรู้จัก Aoi Morikawa นักแสดงปราบเซียนหลายสำนัก!
– ทาคุยะกลับมาอีกครั้ง! BG: Personal Bodyguard ภาค 2 ชีวิตบอร์ดี้การ์ดที่เข้มข้นกว่าเดิม
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
– https://asianwiki.com/
– https://vod-halloffame.com
– ภาพจากละครญี่ปุ่นเรื่อง Change
– ภาพจากละครญี่ปุ่นเรื่อง Kouhaku ga Umareta Hi
– ภาพจากละครญี่ปุ่นเรื่อง BG: Personal Bodyguard
#4 ซีรีส์-ภาพยนตร์ญี่ปุ่น ทำเพื่อชาติแบบไม่ใช้ความรุนแรง